คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่เวรยามกับส.โดยมีหน้าที่ร่วมกันดูแลความเรียบร้อยในบริเวณวิทยาลัยทั้งหมดแม้ว่าจะมีการตกลงแบ่งหน้าที่กันเองโดยให้จำเลยประจำอยู่ที่ป้อมยามหน้าประตูแต่ขณะเกิดเหตุจำเลยไปยืนคุยอยู่กับส.บริเวณรูปปั้นพระวิษณุซึ่งอยู่ในวิทยาลัยก็ถือได้ว่าจำเลยได้ตรวจความเรียบร้อยในบริเวณวิทยาลัยอยู่มิใช่เป็นการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่อันจะถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อและคนร้ายได้ขว้างก้อนหินจากภายนอกรั้วเข้าไปถูกกระจกของศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพภายในวิทยาลัยเสียหายแม้จำเลยจะประจำอยู่ในป้อมยามโดยไม่เคลื่อนไปที่ใดก็ไม่สามารถจะป้องกันความเสียหายจากการกระทำของคนร้ายได้จำเลยไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์ ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของโจทก์ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2532 เวลา 23.35 นาฬิกาจำเลยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อโดยปล่อยปละละเลยไม่อยู่ประจำป้อมยามบริเวณหน้าประตูเข้าออกของวิทยาลัยทั้งมิได้ปิดประตูเพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นเข้าไปในบริเวณวิทยาลัยเป็นเหตุให้คนร้ายบุกรุกเข้าไปในบริเวณวิทยาลัยแล้วใช้ก้อนหินขว้างปากระจกอาคารศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพซึ่งเป็นทรัพย์สินของโจทก์ ทำให้กระจกผนังและกระจกตู้แสดงสินค้าภายในอาคารแตกเสียหายคิดเป็นเงิน 4,600 บาท ซึ่งจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แต่จำเลยเพิกเฉย โจทก์เพิ่งทราบถึงเหตุละเมิดและรู้ตัวผู้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2533 ขอให้บังคับจำเลยใช้เงิน 4,600 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2532 จนกว่าจะชำระเสร็จโดยคิดเป็นดอกเบี้ยก่อนฟ้องเป็นเงิน 690 บาท
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่เวรยาม โดยจำเลยปิดประตูของวิทยาลัยและอยู่ประจำป้อมยามหน้าประตูเข้าออกตลอดเวลา เหตุละเมิดเกิดจากบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เข้ามาในบริเวณวิทยาลัยแต่ใช้วัตถุแข็งขว้างปาเข้ามาจนเป็นเหตุให้กระจกแตก อันเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยไม่อาจป้องกันได้ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า จำเลยปฏิบัติหน้าที่เวรยามร่วมกับนายสุทิน อิสอน โดยมีหน้าที่ร่วมกันดูแลความเรียบร้อยในวิทยาลัยทั้งหมด แต่ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ประจำป้อมยามประตูรั้วของวิทยาลัยตามที่แบ่งหน้าที่กับนายสุทินจำเลยยืนคุยกับนายสุทินบริเวณรูปปั้นพระวิษณุประจำวิทยาลัยถือว่าจำเลยละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่แล้ว เห็นว่า จำเลยได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่กับนายสุทินแล้ว แม้ว่าจะมีการตกลงแบ่งหน้าที่กันเองโดยให้จำเลยประจำอยู่ที่ป้อมยามหน้าประตู แต่ขณะเกิดเหตุจำเลยไปยืนคุยอยู่กับนายสุทินบริเวณรูปปั้นพระวิษณุซึ่งอยู่ในวิทยาลัย ถือได้ว่าจำเลยได้ตรวจความเรียบร้อยในบริเวณวิทยาลัยอยู่ มิใช่เป็นการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่อันจะถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อ ทั้งข้อเท็จจริงปรากฏว่าคนร้ายได้ขว้างก้อนหินจากภายนอกรั้วเข้าไปถูกกระจกของศูนย์ปฏิบัติการวิชาชีพภายในวิทยาลัยเสียหาย แม้จำเลยจะประจำอยู่ในป้อมยามโดยไม่เคลือนไปที่ใด ก็ไม่สามารถจะป้องกันความเสียหายจากการกระทำของคนร้ายได้ จำเลยไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
พิพากษายืน

Share