คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6703/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์เป็นเครื่องอุปกรณ์ที่จำเลยมีเจตนาชัดแจ้งที่จะให้เป็นของใช้ประจำกับรถยนต์ของกลางเป็นอาจิณจึงถือว่าทรัพย์เหล่านี้เป็นอุปกรณ์ย่อมตกติดไปกับรถยนต์ของกลางที่เป็นประธานเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางย่อมหมายความรวมถึงเครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์ประเภทส่วนบุคคลได้ขับรถแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 134, 160 ทวิ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2535 มาตรา 16, 31 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33ริบของกลาง สั่งเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 ทวิพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 มาตรา 31ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ลงโทษจำคุก 2 เดือนและปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบรถยนต์ของกลางพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 3 เดือน ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง เป็นเวลา 1 ปีและให้ร่วมโครงการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยยื่นคำร้องว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลาง มิได้ให้ริบวิทยุเทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศซึ่งติดตั้งในรถยนต์ของกลางด้วย อุปกรณ์ดังกล่าวมิใช่ส่วนควบของรถยนต์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 144ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคืนวิทยุ เทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศดังกล่าวแก่จำเลย
ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางโดยไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่นย่อมหมายความรวมถึง วิทยุ เทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพง และเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่กับรถยนต์ของกลางด้วยและจำเลยต้องทำเป็นคำฟ้องอุทธรณ์มิใช่ทำเป็นคำร้องจึงให้งดการไต่สวนคำร้องและยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า มีเหตุที่จะคืนเครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์ให้แก่จำเลยได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเครื่องอุปกรณ์ในคดีนี้จำเลยมีเจตนาชัดแจ้งที่จะให้เป็นของใช้ประจำกับรถยนต์เป็นอาจิณ จึงพอที่จะถือได้ว่าเป็นเครื่องอุปกรณ์ของรถยนต์พิพาท อีกทั้งการยึดของกลางคดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งให้ริบรถยนต์ก็ย่อมจะต้องหมายความรวมทั้งทรัพย์สินที่จำเลยขอให้ศาลคืนด้วย
พิพากษายืน

Share