คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2286/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สัญญาจะจำนองไม่มีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่เหมือนสัญญาจะซื้อขายทรัพย์สินสัญญาจะแลกเปลี่ยนและคำมั่นจะให้ตามมาตรา456วรรคสอง,519,526การที่จำเลยมอบโฉนดที่ดินพร้อมใบมอบอำนาจและเอกสารอื่นให้โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองประกันหนี้ขาดลดเช็คโดยมีข้อกำหนดให้จดทะเบียนจำนองได้หลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้เป็นเรื่องที่จำเลยเจตนาจะเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันเมื่อไม่ได้จดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องสัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย ไป จดทะเบียน จำนอง ที่ดิน โฉนดเลขที่ 72069 ไว้ กับ โจทก์ ใน วงเงิน 500,000 บาท หาก จำเลย ไม่ปฏิบัติตาม ให้ ถือเอา คำพิพากษา แทน การแสดง เจตนา ของ จำเลย
จำเลย ให้การ ว่า ฟ้องโจทก์ เป็น ฟ้องซ้ำ จำเลย ไม่เคย มีนิติสัมพันธ์ ใด ๆ กับ โจทก์ ไม่เคย มอบอำนาจ หรือ ตั้ง ตัวแทน หรือ เชิดบุคคล ใด เป็น ตัวแทน ขายลดเช็ค แก่ โจทก์ นาย ราชพัชร ทองโรจน์ และ นาย รักษ์พงศ์ ทองโรจน์ ได้ ชำระหนี้ ตามเช็ค ให้ แก่ โจทก์ ครบถ้วน แล้ว โจทก์ จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา คำฟ้อง โจทก์ และ คำให้การ จำเลย แล้ว วินิจฉัย ว่าตาม คำฟ้อง แสดง ว่า จำเลย มี เจตนา จะ จำนอง ที่ดิน พร้อม สิ่งปลูกสร้างไว้ กับ โจทก์ เพื่อ ประกัน การ ชำระหนี้ ขายลดเช็ค เมื่อ ไม่ได้ ทำ เป็นหนังสือ และ จดทะเบียน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่ สัญญาจำนอง ย่อม ตกเป็นโมฆะ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 714 ประกอบ ด้วยมาตรา 115 จำเลย ไม่ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์ และ โจทก์ จะ ฟ้องบังคับ ให้จำเลย จดทะเบียน จำนอง หาได้ไม่ พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัย ว่า ข้อตกลง ระหว่าง โจทก์ กับ จำเลย ตาม คำฟ้องไม่ได้ ทำ ตาม แบบ ที่ กำหนด ไว้ ใน มาตรา 714 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึง ตกเป็น โมฆะ ตาม บทบัญญัติ แห่งกฎหมาย ดังกล่าว มาตรา 152 กรณี เช่นนี้ ไม่มี กฎหมาย กำหนด ว่า จะ ต้องทำ อย่างไร ต่าง กับ เรื่อง จะซื้อขาย ซึ่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 บัญญัติ ให้ ทำได้ พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คดี มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่าโจทก์ จะ ฟ้องบังคับ ให้ จำเลย จดทะเบียน จำนอง ที่ดิน โฉนด เลขที่ 72069แขวง ลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ไว้ กับ โจทก์ เพื่อ เป็น ประกันหนี้ ขายลดเช็ค ได้ หรือไม่ ศาลฎีกา เห็นว่า ตาม คำฟ้อง ของ โจทก์ปรากฏว่า จำเลย เป็น ผู้ก่อหนี้ ขึ้น โดย เชิด หรือ รู้ แล้ว ยอม ให้นาย ราชพัชร ทองโรจน์ และ นาย รักษ์พงศ์ ทองโรจน์ เชิด ตนเอง เป็น ตัวแทน นำ เช็ค ไป ขาย ลด แก่ โจทก์ การ ที่ จำเลย มอบ โฉนด ที่ดินพร้อม ด้วย ใบมอบอำนาจ และ เอกสาร อื่น ให้ แก่ โจทก์ เพื่อ จดทะเบียนจำนอง ประกันหนี้ ดังกล่าว ถึง แม้ จะ มี ข้อกำหนด ให้ นำ ไป จดทะเบียน จำนองได้ หลังจาก เรียกเก็บเงิน ตามเช็ค ไม่ได้ ก็ ตาม แต่ ก็ เป็น เรื่อง ที่ จำเลยมี เจตนา ที่ จะ เอา ทรัพย์ จำนอง เป็น ประกัน นั้นเอง เมื่อ ไม่ได้ มี การจดทะเบียน จำนอง ให้ ถูกต้อง ตาม กฎหมาย สัญญาจำนอง จึง เป็น โมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115 เดิม และ มาตรา 714ที่ โจทก์ ฎีกา ว่า จำเลย ไม่ได้ มี เจตนา จะ จดทะเบียน จำนอง ทันที แต่ มีเงื่อนไข ว่า จะ จดทะเบียน จำนอง กัน ใน ภายหน้า หลังจาก เรียกเก็บเงินตามเช็ค ไม่ได้ แล้ว จึง ไม่จำต้อง จดทะเบียน ต่อ พนักงาน เจ้าหน้าที่และ ไม่ ตกเป็น โมฆะ นั้น ศาลฎีกา เห็นว่า นอกจาก เจตนา ที่ แท้จริงของ จำเลย ต้องการ เอา ทรัพย์ จำนอง เป็น ประกัน ดัง วินิจฉัย ไว้ แล้วประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 อันเป็น เอกเทศ สัญญา ก็ ไม่ได้บัญญัติ ไว้ ใน ที่ ใด ให้ มี สัญญา ใน ลักษณะ ดังกล่าว ซึ่ง เป็น สัญญา จะ จำนองได้ ไม่ เหมือน สัญญาจะซื้อขาย ทรัพย์สิน สัญญา จะ แลกเปลี่ยน และคำมั่น จะ ให้ ซึ่ง บัญญัติ ไว้ ใน มาตรา 456 วรรคสอง มาตรา 519 และมาตรา 526 เมื่อ สัญญาจำนอง ตกเป็น โมฆะ และ สัญญา จะ จำนอง มี ขึ้นไม่ได้ ตาม กฎหมาย โจทก์ จึง ไม่อาจ อ้างอิง สัญญา ดังกล่าว และ ไม่มี อำนาจฟ้องบังคับ ให้ จำเลย จดทะเบียน จำนอง ที่ดิน โฉนด เลขที่ 72069แขวง ลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ไว้ กับ โจทก์ เพื่อ เป็น ประกันหนี้ ขายลดเช็ค ที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง พิพากษา ต้อง กัน มา ให้ยก ฟ้องโจทก์ นั้น ชอบแล้ว ฎีกา ของ โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share