คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการเช่าตึกแถวพิพาทระหว่างจำเลยที่1ผู้ให้เช่ากับจำเลยที่2ผู้เช่าแต่โจทก์ได้ยื่นคำบอกกล่าวถอนฟ้องจำเลยที่1ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่1ผลย่อมเป็นไปตามมาตรา176แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ให้คู่ความกลับเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการฟ้องเลยภายหลังเมื่อถอนฟ้องจำเลยที่1แล้วกรณีหากมีการเพิกถอนนิติกรรมการเช่าผลย่อมเป็นการกระทบต่อสิทธิของจำเลยที่1อันมีอยู่ตามสัญญาเช่าและเป็นบุคคลนอกคดีดังนั้นศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์ที่ให้เพิกถอนนิติกรรมการเช่าระหว่างจำเลยที่1กับจำเลยที่2ได้ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น เจ้าของรวม ที่ดิน โฉนด เลขที่ 1152พร้อม สิ่งปลูกสร้าง บน ที่ดิน ดังกล่าว คือ ตึกแถว เลขที่ 10/2เมื่อ วันที่ 16 พฤษภาคม 2528 จำเลย ที่ 1 เจ้าของ กรรมสิทธิ์รวมคนหนึ่ง ได้ ขอ จดทะเบียน สิทธิ การ เช่า ตึกแถว ดังกล่าว ให้ แก่ จำเลย ที่ 2มี กำหนด 15 ปี โดย โจทก์ และ เจ้าของ กรรมสิทธิ์รวม คนอื่น มิได้ รู้เห็นหรือ ให้ ความ ยินยอม ขอให้ เพิกถอน การ จดทะเบียน นิติกรรม การ เช่า ตามสัญญาเช่า ตึกแถว พิพาท เลขที่ 10/2 ระหว่าง จำเลย ที่ 1 กับ จำเลย ที่ 2ให้ จำเลย ขนย้าย ทรัพย์สิน และ บริวาร ออก ไป จาก ตึกแถว พิพาท ดังกล่าวและ ส่งมอบ ให้ แก่ โจทก์ ใน สภาพ เรียบร้อย ห้าม มิให้ จำเลย ที่ 2 เข้า ไปเกี่ยวข้อง กับ ตึกแถว พิพาท อีก ต่อไป และ ให้ จำเลย ที่ 2 ชำระ ค่าเสียหายเดือน ละ 5,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่า จำเลย ที่ 2จะ ขนย้าย ทรัพย์สิน และ บริวาร ออกจาก ตึกแถว พิพาท
โจทก์ ยื่น คำบอกกล่าว ขอ ถอนฟ้อง จำเลย ที่ 1 ศาลชั้นต้น อนุญาต
จำเลย ที่ 2 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 2 เป็น บุคคลภายนอก และ ได้ กระทำการโดยสุจริต สัญญาเช่า ระหว่าง จำเลย ที่ 1 กับ จำเลย ที่ 2 จึง มีผล ผูกพันตาม กฎหมาย โจทก์ และ เจ้าของรวม คนอื่น ๆ ได้ยิน ยอม ให้ จำเลย ที่ 1จดทะเบียน การ เช่า ตึกแถว พิพาท โจทก์ ไม่เสีย หาย ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ เพิกถอน นิติกรรม การ เช่า ตึกแถวเลขที่ 10/2 ระหว่าง จำเลย ที่ 1 กับ จำเลย ที่ 2 ให้ จำเลย ที่ 2ขนย้าย ทรัพย์สิน และ บริวาร ออก ไป จาก ตึกแถว ดังกล่าว และ ส่งมอบ ให้ โจทก์ใน สภาพ เรียบร้อย ให้ จำเลย ที่ 2 ชำระ ค่าเสียหาย เดือน ละ 5,000 บาทนับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่า จำเลย ที่ 2 จะ ขนย้าย ทรัพย์สิน และ บริวารออก ไป จาก ตึกแถว ดังกล่าว เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ โจทก์ ฟ้อง ขอให้ เพิกถอน การ จดทะเบียนนิติกรรม การ เช่า ตึกแถว พิพาท ระหว่าง จำเลย ที่ 1 ผู้ให้เช่า กับจำเลย ที่ 2 ผู้เช่า และ ขับไล่ จำเลย ที่ 2 ออกจาก ตึกแถว พิพาทแต่ ปรากฏว่า โจทก์ ได้ ยื่น คำบอกกล่าว ถอนฟ้อง จำเลย ที่ 1 ศาลชั้นต้นมี คำสั่ง อนุญาต และ ให้ จำหน่ายคดี สำหรับ จำเลย ที่ 1 ออกจาก สารบบความแล้ว ผล ย่อม เป็น ไป ตาม มาตรา 176 แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ ให้ คู่ความ กลับ เข้า สู่ ฐานะ เดิม เสมือน หนึ่ง มิได้ มี การ ฟ้อง เลยภายหลัง เมื่อ ถอนฟ้อง จำเลย ที่ 1 แล้ว กรณี หาก มี การ เพิกถอน นิติกรรมการ เช่า ผล ย่อม เป็น การ กระทบ ต่อ สิทธิ ของ จำเลย ที่ 1 อัน มี อยู่ ตามสัญญาเช่า และ เป็น บุคคล นอก คดี ดังนั้น ศาล จึง ไม่อาจ พิพากษา ให้ เป็นไป ตาม คำขอ ของ โจทก์ ที่ ให้ เพิกถอน นิติกรรม การ เช่า ระหว่าง จำเลย ที่ 1กับ จำเลย ที่ 2 ได้ ปัญหา นี้ เป็น ข้อกฎหมาย อัน เกี่ยว ด้วยความสงบ เรียบร้อย ของ ประชาชน แม้ ไม่มี คู่ความ ฝ่ายใด ฎีกา ศาลฎีกาก็ ยกขึ้น วินิจฉัย ได้ ส่วน ที่ โจทก์ ขอให้ ขับไล่ จำเลย ที่ 2 ออกจากตึกแถว พิพาท นั้น เมื่อ ได้ วินิจฉัย แล้ว ว่า ศาล ไม่อาจ พิพากษา ให้ เพิกถอนนิติกรรม การ เช่า ได้เสีย แล้ว คำขอ ของ โจทก์ ใน ส่วน นี้ ก็ เป็น อัน ตก ไป ด้วย
พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้องโจทก์

Share