คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่1และ บ. เป็นผู้ค้ายาเสพติดให้โทษจำเลยที่3กับพวกนัดพบกันหลายครั้งและจำเลยที่3รับเงินจาก บ. นำไปมอบแก่จำเลยที่1เพื่อเป็นค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดหาลักลอบขนยาเสพติดให้โทษถือว่าเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดหาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนไม่

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ทั้ง สาม ตาม พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้ โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 พระราชบัญญัติมาตรการ ใน การ ปราบปราม ผู้กระทำ ความผิด เกี่ยวกับ ยาเสพติด พ.ศ. 2534มาตรา 3, 7 พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8, 8 ทวิ ,72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 91, 371 และ สั่งริบ เฮโรอีน กับ รถยนต์ ของกลาง
จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ให้การรับสารภาพ ส่วน จำเลย ที่ 2ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 มี ความผิด ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง และมาตรา 65 วรรคสอง ประกอบ ด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83และ พระราชบัญญัติ มาตรการ ใน การ ปราบปราม ผู้กระทำ ความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 7 อันเป็น กรรมเดียว เป็น ความผิด ต่อกฎหมาย หลายบท และ จำเลย ที่ 1 ยัง มี ความผิด ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง , 72 วรรคสอง วรรคสาม ,72 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษ จำเลย ที่ 1และ ที่ 3 ฐาน พยายาม ส่ง เฮโรอีน ออก นอก ราชอาณาจักร เพื่อ จำหน่าย ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 65 วรรคสองประกอบ ด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83 และ พระราชบัญญัติมาตรการ ใน การ ปราบปราม ผู้กระทำ ความผิด เกี่ยวกับ ยาเสพติด พ.ศ. 2534มาตรา 7 บทหนัก ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ ประหารชีวิตลงโทษ จำเลย ที่ 1 ฐาน มี อาวุธปืน ของ ผู้อื่น และ เครื่องกระสุนปืนไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน ฯมาตรา 7, 72 วรรคสอง บทหนัก ให้ จำคุก 8 เดือน ฐาน พา อาวุธปืนติดตัว ไป โดย ฝ่าฝืน กฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน ฯ บทหนัก ให้ จำคุก6 เดือน จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ให้การรับสารภาพ เป็น ประโยชน์ แก่ การพิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ใน ความผิด ฐาน พยายาม ส่ง เฮโรอีน ออก นอก ราชอาณาจักร เพื่อจำหน่าย ประกอบ มาตรา 52(2) คง จำคุก จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ไว้ ตลอด ชีวิตส่วน ความผิด ของ จำเลย ที่ 1 ฐาน มี อาวุธปืน ของ ผู้อื่น และเครื่องกระสุนปืน ไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต คง จำคุก 4 เดือนและ ฐาน พา อาวุธปืน ติดตัว โดย ฝ่าฝืน กฎหมาย คง จำคุก 3 เดือน รวม โทษของ จำเลย ที่ 1 ทุกกระทง แล้ว เป็น โทษ จำคุก ตลอด ชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) ริบ รถยนต์ คัน หมายเลข ทะเบียน2 ย-5709 กรุงเทพมหานคร และ เฮโรอีน ของกลาง ส่วน จำเลย ที่ 2ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ และ จำเลย ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ที่ จำเลย ที่ 3 ฎีกา ว่า จำเลย ที่ 3 มิได้เป็น ตัวการ แต่ เป็น เพียง ผู้สนับสนุน ใน การกระทำ ความผิด นั้น เห็นว่าข้อเท็จจริง ที่ ไม่ โต้เถียง กัน ใน ชั้นฎีกา ฟังได้ ว่า จำเลย ที่ 1 และนาย บุญเทียมหรือทวีทรัพย์หรือเม้ง สกุลรัตนชัย เป็น ผู้ค้า ยาเสพติดให้โทษ จำเลย ที่ 3 กับพวก นัดพบ กัน หลาย ครั้ง และ จำเลย ที่ 3รับ เงิน จาก นาย บุญเทียมหรือทวีทรัพย์หรือเม้ง นำ ไป มอบ ให้ แก่ จำเลย ที่ 1 เพื่อ เป็น ค่าจ้าง และ ค่าใช้จ่าย ใน การ จัดซื้อ หา ลักลอบ ขน ยาเสพติดให้ โทษ มี การ บรรทุก กระสอบ ซึ่ง บรรจุ ตะเกียบ ไป ส่ง ที่ บ้านพัก ของจำเลย ที่ 1 กับ ที่ ตึกแถว ที่ จำเลย ที่ 1 เช่า และ มี การ ขนถ่าย สินค้าไป เก็บ ที่ ตึกแถว ที่ เช่า มี คนงาน บรรจุ ตะเกียบ ลง กล่อง กระดาษ และขน กล่อง กระดาษ ใส่ ตู้ คอนเทนเนอร์ ไป ยัง ท่าเรือ คลองเตย เจ้าพนักงาน ตำรวจ ติดตาม ไป และ ได้ ตรวจค้น ตู้ คอนเทนเนอร์ ดังกล่าว พบ เฮโรอีนของกลาง อยู่ ใน กล่อง กระดาษ พฤติการณ์ ดังกล่าว ถือได้ว่า เป็น การร่วมกัน กระทำ ความผิด จำเลย ที่ 3 ต้อง มี ความผิด ฐาน เป็น ตัวการหาใช่ เป็น เพียง ผู้สนับสนุน ใน การกระทำ ความผิด ไม่ ฎีกา ข้อ นี้ของ จำเลย ที่ 3 ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share