แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พยานโจทก์แอบซุ่มดูเหตุการณ์การกระทำผิดห่างออกไปประมาณ300เมตรเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวโดยใช้กล้องส่องทางไกลเมื่อได้ความว่าจำเลยมีพี่น้องผู้ชายซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับจำเลยทำให้น่าสงสัยว่าพยานโจทก์จะเห็นและจำผู้กระทำผิดดังกล่าวได้โดยไม่ผิดพลาดว่าคือจำเลยไม่ใช่น้องชายจำเลยหรือไม่ พยานหลักฐานของโจทก์ยัง มีข้อสงสัยและต้อง ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา227วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า เมื่อ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2536 เวลา กลางวันจำเลย มี เฮโรอีน อันเป็น ยาเสพติดให้โทษ ชนิด ร้ายแรง ใน ประเภท 1 หนัก1.05 กรัม ไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต และ ได้จำหน่าย เฮโรอีน ดังกล่าว ให้ แก่ ผู้มีชื่อ โดย ฝ่าฝืน ต่อ กฎหมาย เหตุ เกิดที่ ตำบล พิกุลทอง อำเภอ เมือง ราชบุรี จังหวัด ราชบุรี จำเลย เป็น บุคคล คนเดียว กับ จำเลย ที่ 1 ใน คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 1582/2536ของ ศาลชั้นต้น ขอให้ ลงโทษ ตาม พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 15, 66, 67 และ นับ โทษ ต่อ จาก โทษ ของ จำเลย ที่ 1 ใน คดีอาญาหมายเลขแดง ที่ 1582/2536 ของ ศาลชั้นต้น
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ แต่ รับ ว่า เป็น บุคคล คนเดียว กับ จำเลย ที่ 1ใน คดี ที่ โจทก์ ขอให้ นับ โทษ ต่อ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคแรก จำคุก6 ปี นับ โทษ จำเลย ต่อ จาก โทษ ของ จำเลย ที่ 1 ใน คดีอาญา หมายเลขแดงที่ 1582/2536 ของ ศาลชั้นต้น
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “คดี มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ใน ชั้น นี้ ตาม ที่โจทก์ ฎีกา ว่า จำเลย ได้ กระทำ ความผิด ฐาน มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครองเพื่อ จำหน่าย และ จำหน่าย เฮโรอีน ตาม ฟ้อง หรือไม่ ใน ปัญหา นี้ โจทก์มี พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ ทรัพย์เดช และ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ เสนางาม เจ้าพนักงาน ตำรวจ ผู้จับกุม จำเลย เบิกความ เป็น พยาน ว่า พยาน ทั้ง สองแอบ ซุ่ม ดู เหตุการณ์ อยู่ ด้วยกัน ห่าง จาก กระท่อม ประมาณ 300 เมตรเห็น สิบเอก สมศักดิ์ ศักดิ์เอี่ยม ขับ รถจักรยานยนต์ ไป จอด บน ถนน ห่าง จาก กระท่อม ประมาณ 50 เมตร แล้ว ลง จาก รถ ยืน รอ อยู่ ประมาณ 10 นาทีจำเลย เดิน ออก มา พูด คุย กับ สิบเอก สมศักดิ์ สิบเอก สมศักดิ์ ยื่น ธนบัตร ให้ จำเลย จำเลย ส่ง หลอด พลาสติก สี ขาว ให้ สิบเอก สมศักดิ์ หลังจาก นั้น สิบเอก สมศักดิ์ ขับ รถจักรยานยนต์ กลับ ไป ทาง เดิม ส่วน จำเลย เดิน ไป กระท่อม สิบตำรวจตรี สมพงษ์ วิทยุ แจ้ง ให้ จ่าสิบตำรวจ ประสาร สกัด จับ สิบเอก สมศักดิ์ ต่อมา จ่าสิบตำรวจ ประสาร แจ้ง ว่า ค้นพบ เฮโรอีน ได้ ที่ สิบเอก สมศักดิ์ พยาน ทั้ง สอง วิ่ง ไป จับกุม จำเลย ที่ กระท่อม แต่ ยัง วิ่ง ไป ไม่ถึง กระท่อม จำเลยวิ่ง หลบหนี ลง ทุ่งนา ไป ก่อน จึง ไม่สามารถ จับกุม จำเลย ได้ หลังจาก นั้นจ่าสิบตำรวจ ประสาร นำ สิบเอก สมศักดิ์ มา พบ พยาน ทั้ง สอง โดย นำ เฮโรอีน บรรจุ อยู่ ใน หลอด พลาสติก ปิด ฝา ที่ ค้น ได้ จาก สิบเอก สมศักดิ์ มา ด้วย พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ สอบถาม สิบเอก สมศักดิ์ ว่า ได้ เฮโรอีน มา อย่างไร สิบเอก สมศักดิ์ ว่า ซื้อ มาจาก จำเลย ด้วย เงิน 500 บาท พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ แจ้ง ข้อหา สิบเอก สมศักดิ์ ว่า มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง สิบเอก สมศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ตาม บันทึก การ จับกุม เอกสาร หมาย จ. 2นอกจาก นี้ โจทก์ ยัง มี ร้อยตำรวจตรี ไพรวรรณ สาเพิ่มทรัพย์ พนักงานสอบสวน เบิกความ เป็น พยาน ด้วย ว่า เมื่อ วันที่ 18 กุมภาพันธ์2536 เวลา 15 นาฬิกา ขณะที่ พยาน ปฏิบัติ หน้าที่ เป็น ร้อยเวร สอบสวนอยู่ สถานีตำรวจภูธร อำเภอ เมือง ราชบุรี พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ กับพวก จับกุม ตัว สิบเอก สมศักดิ์ พร้อม เฮโรอีน จำนวน 1 หลอด มา มอบ ให้ พยาน โดย กล่าวหา ว่า สิบเอก สมศักดิ์ มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง สิบเอก สมศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ว่า ซื้อ เฮโรอีน มาจาก จำเลย ใน ราคา 500 บาท ชั้นสอบสวน พยาน แจ้ง ข้อหา แก่ สิบเอก สมศักดิ์ ว่า มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง สิบเอก สมศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ตาม เอกสาร หมาย จ. 5พยาน จึง ออกหมายจับ จำเลย ใน ข้อหา จำหน่าย เฮโรอีน ตาม หมายจับ เอกสารหมาย จ. 7 ส่วน จำเลย มี ตัว จำเลย เบิกความ เป็น พยาน ว่า จำเลย มิได้กระทำ ความผิด คดี นี้ นาย เผย นิยมทัศน์ น้องชาย จำเลย ซึ่ง มี รูปร่าง หน้า ตา คล้ายคลึง กับ จำเลย เป็น ผู้กระทำ ความผิด พิเคราะห์ แล้วปรากฏ จาก สำเนา ทะเบียนบ้าน ฉบับ เจ้า บ้าน ของ จำเลย ว่า จำเลย มี น้องชายชื่อ นาย เผย นิยมทัศน์ อยู่ บ้าน เดียว กับ จำเลย จริง และ ที่ พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ กับ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ เบิกความ ว่า สิบเอก สมศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ตาม บันทึก การ จับกุม เอกสาร หมาย จ. 2ว่า มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครอง โดย ซื้อ มาจาก จำเลย และ ร้อยตำรวจโท ไพรวรรณ เบิกความ ว่า สิบเอก สมศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ว่า ซื้อ เฮโรอีน มาจาก จำเลย และ ให้การรับสารภาพ ตาม บันทึก คำให้การ เอกสาร หมาย จ. 5 จึงออกหมายจับ จำเลย ใน ข้อหา จำหน่าย เฮโรอีน นั้น ก็ ปรากฏว่าสิบเอก สมศักดิ์ มิได้ ให้การ ใน ชั้น จับกุม และ ชั้นสอบสวน ว่า ซื้อ เฮโรอีน มาจาก จำเลย แต่ ได้ ให้การ ตาม บันทึก การ จับกุม เอกสาร หมาย จ. 2ว่า ซื้อ เฮโรอีน มาจาก นาย เผย นิยมทัศน์ และ ให้การ ใน ชั้นสอบสวน ตาม บันทึก คำให้การ เอกสาร หมาย จ. 5 ว่า ซื้อ เฮโรอีน มาจาก นาย เผย หมายจับ เอกสาร หมาย จ. 7 ซึ่ง สารวัตร ใหญ่ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมือง ราชบุรี เป็น ผู้ออกหมาย ก็ มิได้ ระบุ ให้ จับ จำเลย แต่ ให้ จับนาย เผย นิยมทัศน์ ที่ จำเลย นำสืบ ว่า พี่น้อง ผู้ชาย ของ จำเลย มี รูปร่าง หน้า ตา ใกล้เคียง กัน โดย นาง แป้ว นิยมทัศน์ มารดา จำเลย เบิกความ ว่า บุตรชาย พยาน ทุกคน มี หน้า ตา คล้ายคลึง กัน บางครั้ง พยานก็ จำ ผิด จำ ถูก นั้น พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ กับ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ ก็ เบิกความ ตอบ ทนายจำเลย ถาม ค้าน ว่า พี่ชาย จำเลย มี ลักษณะ หน้า ตาใกล้เคียง กับ จำเลย จึง เชื่อ ได้ว่า พี่น้อง จำเลย รวมทั้ง นาย เผย มี รูปร่าง หน้า ตา คล้ายคลึง กัน ดังนั้น แม้ พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ และ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ เบิกความ ว่า แอบ ซุ่ม ดู เหตุการณ์ เห็น จำเลย และ สิบเอก สมศักดิ์ พูด คุย กัน สิบเอก สมศักดิ์ ส่ง เงิน ให้ จำเลย จำเลย ส่ง เฮโรอีน ให้ สิบเอก สมศักดิ์ แต่ ก็ ได้ความ ว่า พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ และ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ แอบ ซุ่ม ดู เหตุการณ์ ห่าง จาก ไป ประมาณ 300 เมตร เห็น เหตุการณ์ ดังกล่าว โดย ใช้ กล้อง ส่อง ทางไกล ซึ่ง เมื่อได้ความ ว่า จำเลย มี พี่น้อง ผู้ชาย ซึ่ง มี รูปร่าง หน้า ตา คล้ายคลึง กับจำเลย เช่นนี้ จึง ทำให้ น่า สงสัย ว่า พัน ตำรวจ ตรี กฤษณะ และ สิบตำรวจตรี สมพงษ์ ซึ่ง ดู เหตุการณ์ ใน ระยะ ไกล โดย ใช้ กล้อง ส่อง ทางไกล เช่นนั้น จะ เห็น และ จำ ผู้จำหน่าย เฮโรอีน ให้ แก่ สิบเอก สมศักดิ์ ได้ โดย ไม่ผิด พลาด ว่า คือ จำเลย ไม่ใช่ นาย เผย น้องชาย จำเลย หรือไม่ พยานหลักฐาน ของ โจทก์ จึง ยัง มี ข้อสงสัย อยู่ และ ต้อง ยก ประโยชน์ แห่งความ สงสัย ให้ แก่ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา227 วรรคสอง ที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายก ฟ้อง นั้น ชอบแล้ว ฎีกาของ โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน