คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ พ. แม้โจทก์จะโอนขายที่ดินพิพาทแก่ ศ. ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นแต่ในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องที่ดินพิพาทยังเป็นมรดกของ พ. อีกทั้งโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง เมื่อโจทก์ได้โอนที่ดินพิพาทให้แก่ ศ. ไปแล้วโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายจากจำเลยจนถึงวันที่ได้โอนที่ดินพิพาทไปเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ขับไล่ จำเลย และ บริวาร ขนย้าย ทรัพย์สิน พร้อมรื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง ออกจาก ที่ดินพิพาท และ ใช้ ค่าเสียหาย
จำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า ที่ดินพิพาท นาย พัน ซึ่ง เป็น เจ้าของ กรรมสิทธิ์ ทำ สัญญาจะซื้อขาย แก่ จำเลย และ จำเลย ผ่อนชำระ ราคา ครบถ้วนแล้วแต่ นาย พัน ถึงแก่ความตาย ก่อน ไป จดทะเบียน โอน ที่ดินพิพาท โจทก์ ซึ่ง เป็น ทายาท ต้อง มี หน้าที่ ปฏิบัติ ตาม สัญญาจะซื้อขาย ขอให้ยกฟ้อง และ บังคับ ให้ โจทก์ ไป จดทะเบียน ไถ่ถอน จำนอง และ จดทะเบียนโอน กรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาท แก่ จำเลย หาก โจทก์ ไม่ยอม ไป ขอให้ ถือเอาคำพิพากษา เป็น การแสดง เจตนา ของ โจทก์
โจทก์ ให้การ แก้ฟ้อง แย้ง ว่า ผู้ตาย ไม่เคย ตกลง ทำ สัญญาจะซื้อขายที่พิพาท แก่ จำเลย ไม่เคย รับ เงินมัดจำ และ ค่าที่ดิน จาก จำเลย
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ ขับไล่ จำเลย และ บริวาร ออกจาก ที่ดินพิพาท โดย ให้ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง ออก ไป จาก ที่ดินพิพาท ให้ จำเลยใช้ ค่าเสียหาย แก่ โจทก์ 6,000 บาท และ ใช้ ค่าเสียหาย แก่ โจทก์ เดือน ละ1,000 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้อง จนกว่า ชำระ เสร็จ ให้ จำเลย ใช้ค่าฤชาธรรมเนียม แทน โจทก์ โดย กำหนด ค่า ทนายความ 1,500 บาท ให้ยก ฟ้องแย้ง ของ จำเลย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ให้ จำเลย ใช้ ค่า ทนายความ ชั้นอุทธรณ์แทน โจทก์ 1,000 บาท
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา ที่ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลยข้อ แรก ว่า โจทก์ มีอำนาจ ฟ้อง หรือไม่ เห็นว่า แม้ โจทก์ จะ โอนขาย ที่ดินพิพาท แก่ นาง ศิริมนัส ยุวบูรณ์ ใน ระหว่าง การ พิจารณา ของ ศาลชั้นต้น แต่ ใน ขณะที่ โจทก์ ยื่นฟ้อง ที่ดินพิพาท ยัง เป็น มรดก ของนาย พัน อีก ทั้ง โจทก์ ยัง มีสิทธิ เรียก ค่าเสียหาย ได้ ดังนั้น โจทก์ จึง มีอำนาจ ฟ้อง แต่ ที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง พิพากษา ให้ จำเลย ใช้ ค่าเสียหายแก่ โจทก์ เดือน ละ 1,000 บาท นับ ถัด จาก วันฟ้อง จนกว่า จะ ชำระ เสร็จนั้น เห็นว่า เมื่อ โจทก์ โอน ที่ดินพิพาท ให้ แก่ นาง ศิริมนัส ไป แล้ว เมื่อ วันที่ 28 มีนาคม 2533 ดังนั้น โจทก์ จึง มีสิทธิ ได้รับค่าเสียหาย ถึง วัน ดังกล่าว เท่านั้น ฎีกา ของ จำเลย ข้อ นี้ ฟังขึ้น บางส่วน
พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ จำเลย ใช้ ค่าเสียหาย แก่ โจทก์6,000 บาท และ ต่อไป อีก เดือน ละ 1,000 บาท นับแต่ วันฟ้องถึง วันที่ 28 มีนาคม 2533 นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียม ใน ชั้นฎีกา ให้ เป็น พับ

Share