คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3092/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากจำเลยโดยยอมชำระเงินค่าก่อสร้างให้จำเลยเป็นการตอบแทนที่จำเลยยอมให้เช่าห้องพิพาทต่อมาจำเลยได้มีหนังสือบอกเลิกการเช่าไปยังโจทก์และได้ออกเช็ค2ฉบับกับตั๋วแลกเงิน1ฉบับเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินค่าก่อสร้างคืนให้โจทก์แสดงว่าจำเลยประสงค์แต่จะเลิกสัญญากับโจทก์เท่านั้นโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญาจึงได้ยอมคืนเงินค่าก่อสร้างแก่โจทก์ทั้งหมดปรากฏว่าโจทก์ไม่ยอมรับเช็คและตั๋วแลกเงินดังกล่าวจำเลยจึงต้องมีหนังสือยืนยันและคืนเช็คพร้อมตั๋วแลกเงินให้โจทก์อีกแม้ต่อมาโจทก์ยอมรับตั๋วแลกเงินและเช็คไว้ก็ตามแต่โจทก์ก็มิได้นำไปขึ้นเงินจึงเป็นการบอกเลิกสัญญาของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใดภายหลังโจทก์จึงนำตั๋วแลกเงินและเช็ค2ฉบับของจำเลยไปขึ้นเงินแต่ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้เพราะเช็คขาดอายุความแสดงว่าโจทก์ตกลงเลิกสัญญากับจำเลยแล้วและยินดีรับเงินค่าก่อสร้างที่จำเลยคืนให้ซึ่งเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้เช่าห้องพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตสัญญาเช่าห้องพิพาทเป็นอันระงับจำเลยจึงต้องชำระเงินที่ค้างอยู่ให้แก่โจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกแถวของจำเลย โดยตกลงชดใช้ค่าก่อสร้างจำนวน 170,000 บาท ให้แก่ผู้ให้เช่า ต่อมาจำเลยบอกเลิกสัญญาเช่าไม่ยอมให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องเช่า และคืนเงินค่าก่อสร้างให้โจทก์ โดยจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน 50,000 บาทและจ่ายเป็นเช็ค 120,000 บาท โจทก์เห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจบอกเลิกสัญญา จึงฟ้องผู้ที่จำเลยให้เช่าตึกดังกล่าว คดีถึงที่สุด โจทก์นำเช็คทั้งสองฉบับไปขึ้นเงินแต่ธนาคารอ้างว่าเช็คขาดอายุความ จึงขอศาลบังคับจำเลยคืนเงินค่าก่อสร้างให้โจทก์ 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยให้การว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาพร้อมกับคืนเงินโดยออกเช็คให้โจทก์ โจทก์จงใจสละสิทธิในการรับเงินตามเช็คโดยไม่สุจริตไม่ยอมเลิกสัญญาเช่า กลับอาศัยสัญญานี้ฟ้องผู้เช่าช่วง คดีถึงที่สุด โดยศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี จึงหันกลับมาฟ้องคดีนี้ สิทธิของโจทก์ตามเช็คขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 120,000 บาท ให้โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงแสดงว่าจำเลยประสงค์แต่จะเลิกสัญญากับโจทก์เท่านั้น โดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จึงได้ยอมคืนเงินค่าก่อสร้างแก่โจทก์ทั้งหมดแต่โจทก์ได้ส่งเช็คและตั๋วแลกเงินคืนให้จำเลย จำเลยจึงมีหนังสือยืนยันการบอกเลิกสัญญาและส่งเช็คกับตั๋วแลกเงินคืนให้โจทก์อีก แม้ต่อมาโจทก์จะยอมรับไว้ก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้นำไปขึ้นเงิน จึงเป้นการบอกเลิกสัญญาของจำเลยแต่ฝ่ายเดียว ไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใดระหว่างที่โจทก์ดำเนินการฟ้องขับไล่ผู้เช่าช่วงออกจากห้องพิพาทย่อมถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิตามสัญญาเช่าห้องพิพาท อันเป็นการยืนยันว่าโจทก์ไม่ยอมรับการบอกเลิกสัญญาจากจำเลย ภายหลังเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี โจทก์จึงนำตั๋วแลกเงินและเช็ค 2 ฉบับขึ้นเงินแต่ขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ เพราะเช็คขาดอายุความนั้นแสดงว่าโจทก์ตกลงเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว และยินดีรับเงินค่าก่อสร้างที่จำเลยคืนให้ซึ่งเป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้เช่าโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างไร เมื่อโจทก์ยอมเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว สัญญาเช่าก็เป็นอันระงับ และเมื่อสัญญาดังกล่าวมิได้ให้สิทธิจำเลบยในฐานะผู้ให้เช่าริบเงินค่าก่อสร้างที่จำเลยชำระให้โจทก์ จำเลยจึงต้องชำระเงินดังกล่าวที่ค้างอยู่ให้แก่โจทก์ พิพากษายืน

Share