คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2265/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยอาศัยสิทธิการเช่าตามสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองเพื่อทำนาจำเลยทั้งสองปลูกสร้างโรงเรือนในที่ดินนั้นจะอ้างว่าปลูกสร้างโดยสุจริตและบังคับให้โจทก์รับเอาสิ่งปลูกสร้างในที่ดินและใช้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นแก่จำเลยทั้งสองไม่ได้กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1310.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น ผู้ถือ กรรมสิทธิ์ ที่ดิน โฉนด เลขที่1538 ตำบล หนองแซง อำเภอ หนองแซง (เสาไห้) จังหวัด สระบุรี เนื้อที่41 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา เมื่อ วันที่ 17 เมษายน 2521 จำเลย เช่า ที่ดินแปลง นี้ จาก โจทก์ เพื่อ ใช้ ทำ นา มี กำหนด 6 ปี ต่อมา เดือน เมษายน2522 จำเลย ทั้ง สอง และ บริวาร ปลูก บ้าน สอง ชั้น ลง ใน ที่ดินดังกล่าว ด้าน ทิศ ตะวันออก โดย ไม่ ได้ รับ ความ ยินยอม จาก โจทก์โจทก์ ได้ บอกกล่าว ให้ จำเลย รื้อถอน ออก ไป จำเลย เพิกเฉย หาก โจทก์จะ ต้อง จ้าง บุคคล ภายนอก มา รื้อถอน และ ขนย้าย สิ่ง ปลูกสร้าง ออก ไป โจทก์ จะ ต้อง เสีย ค่าจ้าง ไม่ น้อยกว่า 5,000 บาท ขอ ให้ บังคับจำเลย รื้อถอน ขนย้าน สิ่ง ปลูกสร้าง ของ จำเลย ออก ไป จาก ที่ดิน ของโจทก์ และ ทำ ที่ดิน ให้ มี สภาพ เป็น ที่นา เช่นเดิม ถ้า จำเลย ไม่ ทำก็ ให้ โจทก์ มี สิทธิ จ้าง ผู้อื่น ทำ โดย ให้ จำเลย เสีย ค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 5,000 บาท ห้าม จำเลย กับ บริวาร ปลูกสร้าง สิ่ง ปลูกสร้าง ใดๆ ลง ใน ที่ดิน ของ โจทก์ ต่อไป อีก เว้น แต่ การ ทำนา จน ครบ หก ปีตาม สัญญา เช่า
จำเลย ให้การ และ แก้ไข คำให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า จำเลย ได้ เช่าที่ดิน ดังกล่าว ของ โจทก์ ตาม ฟ้อง แต่ เมื่อ ประมาณ เดือน มีนาคม2519 โจทก์ ได้ ขาย ที่ดิน ดังกล่าว เฉพาะ ส่วน ทาง ด้าน ทิศ ตะวันออกเนื้อที่ 1 ไร่ คือ ที่ดิน พิพาท ให้ แก่ จำเลย ทั้ง สอง ใน ราคา 10,000 บาท จำเลย ชำระ ราคา แล้ว เป็น เงิน 2,000 บาท และ ตกลง ว่า จะ ชำระราคา ที่ เหลือ ให้ โจทก์ ใน วัน จด ทะเบียน โอน โจทก์ ส่งมอบ ที่ดินพิพาท ให้ จำเลย ครอบครอง อย่าง เป็น เจ้าของ ตั้งแต่ นั้น มา จำเลยจึง ได้ ปลูกสร้าง โรงเรือน ถาวร และ ไม้ ยืนต้น สิ้น ค่าใช้จ่าย ไปประมาณ 200,000 บาท จำเลย ชำระ ราคา ที่ดิน ที่ เหลือ อยู่ 8,000 บาทต่อ โจทก์ พร้อมกับ ให้ โจทก์ จัดการ แบ่งแยก ที่ดิน แล้ว จดทะเบียนโอน ขาย ให้ แก่ จำเลย โจทก์ ไม่ ไป จัดการ แบ่งแยก ที่ดิน และ โอน ขายที่ดิน พิพาท ให้ แก่ จำเลย การ ที่ จำเลย ปลูกสร้าง อสังหาริมทรัพย์ลง ใน ที่ดิน ของ โจทก์ ทำ ให้ ที่ดิน ของ โจทก์ มี ราคา สูง ขึ้น เป็น210,000 บาท ขอ ให้ ยกฟ้อง โจทก์ และ ให้ โจทก์ รังวัด แบ่งแยกจดทะเบียน โอน กรรมสิทธิ์ ใน ที่ดิน พิพาท ให้ จำเลย โดย จำเลย จะ ชำระราคา ที่ดิน พิพาท ที่ ยัง ค้าง ชำระ ให้ โจทก์ ภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ ศาล พิพากษา หาก โจทก์ ฝ่าฝืน ก็ ให้ ถือ เอา คำพิพากษา เป็นการ แสดง เจตนา ของ โจทก์ หาก การ โอน ที่ดิน พิพาท ให้ แก่ จำเลย ไม่อาจ กระทำ ได้ ก็ ให้ โจทก์ ชดใช้ ราคา ที่ดิน ที่ เพิ่มขึ้น เป็น เงิน 200,000 บาท พร้อมด้วย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ เจ็ดครึ่ง ต่อ ปีใน ต้นเงิน ดังกล่าว นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้นไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จแก่ จำเลย
โจทก์ ให้การ แก้ ฟ้องแย้ง ว่า โจทก์ ไม่ เคย ขาย ที่ดิน พิพาท ให้ แก่จำเลย และ ไม่ เคย รับ เงิน ค่า ขาย ที่ดิน พิพาท จาก จำเลย นอกจากนี้การ ซื้อขาย ที่ดิน พิพาท ไม่ มี หลักฐาน เป็น หนังสือ การ ปลูก เรือนลง ใน ที่ดิน พิพาท เป็น ผล แห่ง การ ละเมิด ของ จำเลย เอง ขอ ให้ยกฟ้อง แย้ง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง รื้อ เรือน และ รั้ว ที่ปลูกสร้าง ลง ใน ที่ดิน พิพาท ของ โจทก์ และ ทำ ที่ดิน พิพาท ให้ อยู่ใน สภาพ เดิม หาก จำเลย ฝ่าฝืน ก็ ให้ จ้าง ผู้อื่น ทำ โดย ให้ จำเลยชดใช้ ค่าเสียหาย แก่ โจทก์ เป็น เงิน 5,000 บาท ให้ ยกฟ้อง แย้ง
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า ที่ดิน พิพาท เป็น ส่วนหนึ่ง ของที่ดิน ที่ โจทก์ ให้ เช่า และ ขณะนี้ จำเลย ทั้ง สอง ได้ เข้า ครอบครองปลูกสร้าง โรงเรือน ใน ที่ พิพาท โจทก์ ไม่ ได้ ขาย ที่ดิน พิพาท ให้แก่ จำเลย ทั้ง สอง และ วินิจฉัย ปัญหา ข้อกฎหมาย ต่อไป ว่า เมื่อ ฟังว่า โจทก์ ไม่ ได้ ขาย ที่ดิน พิพาท ให้ แก่ จำเลย ทั้ง สอง จำเลยทั้ง สอง จึง อยู่ ใน ที่ดิน พิพาท โดย อาศัย สิทธิ การ เช่า เพื่อ ทำนา จำเลย ทั้ง สอง ปลูกสร้าง โรงเรือน ใน ที่ดิน นั้น จะ อ้าง ว่าปลูกสร้าง โดย สุจริต และ บังคับ ให้ โจทก์ รับ เอา สิ่งปลูกสร้าง ในที่ดิน และ ใช้ ราคา ที่ดิน ที่ เพิ่มขึ้น ไม่ ได้ กรณี ไม่ ต้อง ด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310
พิพากษา ยืน.

Share