คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ประจักษ์พยานโจทก์มีผู้เสียหายเพียงผู้เดียวคำเบิกความของผู้เสียหายจึงต้องพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง ผู้เสียหายกับจำเลยรักใคร่กันฉันหนุ่มสาวก่อนเกิดเหตุได้พากันซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวสองต่อสองเกือบทั้งวันระหว่างทางกลับบ้านผู้เสียหายไม่สบายมากจำเลยได้พาผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วกอดจูบทำอนาจารผู้เสียหายในห้องพักคนไข้ แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะจำเลยกอดจูบนางพยาบาลได้ออกจากห้องไปแล้วแต่ภายหลังจากนั้นนางพยาบาลก็เข้ามาในห้องอีกผู้เสียหายมิได้เล่าเรื่องกอดจูบให้นางพยาบาลทราบพฤติการณ์น่าเชื่อว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานกระทำอนาจาร.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังประทุษร้ายกอดปล้ำกระทำอนาจารหญิงผู้เสียหายอายุ 19 ปี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกอดจูบผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายมิได้ยินยอม พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278จำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประจักษ์พยานโจทก์คงมีผู้เสียหายเพียงผู้เดียว คำเบิกความของผู้เสียหายจึงต้องพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง พฤติการณ์ในคดีฟังได้ว่า จำเลยรักใคร่ผู้เสียหายฉันหนุ่มสาวในคืนเกิดเหตุจำเลยก็เป็นผู้นำผู้เสียหายไปส่งโรงพยาบาลเองประกอบกับผู้เสียหายอายุ 14 ปี ยังเป็นนักเรียน ย่อมไม่เบิกความปรักปรำจำเลยซึ่งผู้เสียหายเองก็รักรักใคร่อยู่ จึงน่าเชื่อว่าจำเลยกอดจูบผู้เสียหายจริง ปัญหาต่อไปคงมีว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำเช่นนั้นหรือไม่ ในข้อนี้ แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่ามิได้ยินยอม ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายป่วยจนไม่มีเรี่ยวแรง ไม่อาจขัดขืนได้ แต่ปรากฎจากคำเบิกความของนางสมพูลเจ้าของบ้านที่ผู้เสียหายเช่าอยู่ว่า จำเลยเคยมาที่บ้านหลายครั้ง ในเดือนเกิดเหตุจำเลยมาคุยกับผู้เสียหาย 2 วันติดกัน และคุยอยู่ประมาณ5 ถึง 6 ทุ่ม จึงกลับ ได้ความว่าก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้เสียหายกับจำเลยได้พากันซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวที่เขาใหญ่สองต่อสองเกือบทั้งวัน ในปี พ.ศ. 2526 ผู้เสียหายก็เคยส่ง ส.ค.ส.ให้แก่จำเลย พฤติการณ์เหล่านี้แสดงได้ว่าผู้เสียหายก็รักใคร่จำเลยฉันหนุ่มสาวเช่นกัน ในขณะเกิดเหตุที่ห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาลมีนางพยาบาลมาให้น้ำเกลือ แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะจำเลยกอดจูบนางพยาบาลได้ออกจากห้องไปแล้ว แต่ภายหลังนั้น นางพยาบาลก็เข้ามาในห้องอีก ผู้เสียหายก็ไม่เล่าเรื่องที่จำเลยกอดจูบให้นางพยาบาลทราบ จึงน่าเชื่อว่าที่จำเลยกล้ากระทำเช่นนั้น เพราะผู้เสียหายยินยอม ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน.

Share