คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ถ้อยคำผู้ตายที่บอกแก่พยานโจทก์ว่าจำเลยเป็นคนยิงและพูดขอฝากฝังบุตรภรรยาของจำเลยให้พยานช่วยดูแลเพราะจะไม่รอดชีวิตเป็นคำบอกเล่าของบุคคลผู้ใกล้จะตายและรู้ตัวว่ากำลังจะตายรับฟังเป็นพยานประกอบพยานอื่นของโจทก์ลงโทษจำเลยได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุกตลอดชีวิตและริบของกลาง จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ตายพูดว่า “ผมน่ากลัวจะไม่รอด ขอฝากลูกฝากเมียให้พี่หมวดดูแลด้วย” พร้อมกับถอดสร้อยคอ นาฬิกาและแหวนมอบให้พยานไว้ โดยสั่งให้เอาไปมอบแก่ภริยาผู้ตาย พยานถามว่าใครเป็นคนยิง จำได้ไหม ผู้ตายว่านายคำแต๋วเป็นคนยิงกับพูดต่อไปว่า “เพื่อนรักกันแท้ ๆ ไม่น่าจะทำผมเลย” พยานเล่าเหตุการณ์ให้ร้อยตำรวจโทวิรัชฟังในคืนเกิดเหตุ โดยบอกด้วยว่าผู้ตายระบุว่าจำเลยเป็นคนร้ายและร้อยตำรวจโทวิรัชเบิกความว่า ในคืนเกิดเหตุพยานสอบถามนายม้าตและร้อยตำรวจโทประพจน์ที่โรงพยาบาล คนทั้งสองว่านายคำแต๋วเป็นคนยิงผู้ตายจากนั้นพยานไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีแสงไฟจากหลอดขนาด 100 แรงเทียนที่ชายคาหน้าบ้านบริเวณหน้าบ้านสว่าง ส่วนจำเลยนำสืบปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่ว่าวันเวลาเกิดเหตุจำเลยพร้อมด้วยพวกหลายคนรับประทานอาหารและดื่มสุราอยู่ที่บ้านจำเลย ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะมีนายม้าตเพียงคนเดียวที่เป็นประจักษ์พยานแต่คำของผู้ตายที่บอกแก่ร้อยตำรวจโทประพจน์ว่าจำเลยเป็นคนร้าย เป็นคำบอกเล่าของบุคคลผู้ใกล้จะตายและรู้ตัวว่ากำลังใกล้จะตายจึงรับฟังเป็นพยานประกอบคำนายม้าตได้ ทั้งผู้ตายถูกยิงด้านหน้า ย่อมมีโอกาสเห็นคนร้าย ประกอบกับนายม้าตและร้อยตำรวจโทประพจน์แจ้งต่อร้อยตำรวจโทวิรัช พนักงานสอบสวนในคืนเกิดเหตุว่าจำเลยเป็นคนยิงผู้ตาย พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคง ข้อเท็จจริงเชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย พยานฐานที่อยู่ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share