คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 400/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนฯไว้ในครอบครองเมื่อวันที่18สิงหาคม2526เวลากลางคืนตอนหนึ่งเมื่อวันที่17สิงหาคม2526เวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงวันที่18สิงหาคม2526เวลากลางวันติดต่อกันอีกตอนหนึ่งและเจ้าพนักงานตำรวจยึดเครื่องกระสุนปืนได้ในวันที่18สิงหาคม2526วันเดียวกันถือได้ว่าจำเลยกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาให้เกิดผลเป็นกรรมเดียวกันแม้สถานที่ที่จำเลยซุกซ่อนเครื่องกระสุนปืนเหล่านั้นไว้จะอยู่ต่างตำบลกันก็ไม่ทำให้มีผลแตกต่างกันไปถือว่าเป็นความผิดกรรมเดียว.

ย่อยาว

โจทก์บรรยายฟ้องว่าเฉพาะข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯจำเลยกระทำผิดหลายบทหลายกรรมต่างกัน คือ ข้อ 1ก. เมื่อวันที่ 18สิงหาคม 2526 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยทั้งสามร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืน ประเภทที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ผู้ใดมีไว้ในคครอบครองได้คือกระสุนปืนอาร์ก้า จำนวน 25,945 นัดเครื่องกระสุนปืนชนิดจรวดยิ่งต่อสู้รถถับแบ อาร์. พี. จี. จำนวน 2ลูก พร้อมดินขับจรวดและหางจรวดจำนวน 2 แท่ง ข้อ 2 เมื่อระหว่างวันที่ 17 ถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2526 เวลากลางคืน และกลางวันติดต่อกัน จำเลยที่ 1 มีเครื่องกระสุนปืนประเภทที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองได้คือกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน292 นัด เครื่องกระสุนปืนยิงระเบิดแบบ เอ้ฒ 79 จำนวน 16 นัดขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78 ซึ่งแก้ไขใหม่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
เฉพาะจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ รวม 2 กรรม
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองเพียงกรรมเดียว
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อหาที่โจทก์ฟ้องตามข้อ 1ก. ก็ดี ข้อ 2ก็ดี ล้วนเป็นข้อหาฐานมีเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2522 ข้อ 3 ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 78 ซึ่งเป็นความผิดในบทมาตราเดียวกันนั่นเอง วันเวลาที่กล่าวหาตามฟ้องข้อ 2 คือวันที่ 17 สิงหาคม 2526 เวลากลางคืน วันเวลาที่กล่าวหาตามฟ้องข้อ 2คือวันที่ 17 สิงหาคม 2526 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงวันที่ 18สิงหาคม 2526 เวลากลางวันติดต่อกัน ซึ่งเป็นความผิดต่อเนื่องกันตลอดเวลาที่ยังครอบครองอยู่เรื่อยมา จะถือว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 17 กรรมหนึ่ง และกระทำผิดในวันที่ 18 อีกกรรมหนึ่งหาได้ไม่ต้องถือว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 18 วันเดียวกันนั่นเอง โดยเฉพาะจำเลยก็ถูกจับได้ในคราวเดียวกัน ดังจะเห็นได้ในคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 และในฟ้องข้อ 4 ของโจทก์ได้กล่าวชัดเจนว่า ตำรวจตรวจค้นจับกุมยึดเครื่องกระสุนผืนตามฟ้องข้อ ก. และ ข้อ 2 ได้ในวันที่ 18สิงหาคม 2526 วันเดียวกัน จึงต้องถือว่าจำเลยกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยมีเจตนาให้เกิดผลเป็นกรรมเดียวกัน ลักษณะของการกระทำก็อย่างเดียวกัน ผิดกฎหมายบทเดียวกันและในวันเวลาเดียวกันด้วยแม้สถานที่ที่จำเลยซุกซ่อนเครื่องกระสุนปืนเหล่านั้นไว้จะอยู่ต่างตำบลกันบ้าง ก็หาทำให้มีผลแตกต่างกันไ่ ในเมื่อจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนเหล่านั้นไว้ในครอบครองโดยเจตนากระทำผิดกฎหมายบทเดียวกันนั้นเอง จึงต้องถือว่าเป็นความผิดกรรมเดียวกัน
พิพากษายืน.

Share