คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2529

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 นั้นโจทก์จะต้องร้องขอภายใน 15 วัน นับแต่วันศาลยกฟ้องมิใช่วันที่โจทก์ทราบคำสั่ง ศาลยกฟ้องเมื่อวันที่29 มีนาคม 2527 โจทก์มายื่นคำร้องขอเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2527 จึงเป็นการเกินกำหนดเวลา โจทก์ฎีกาว่าการส่งหมายนัดไม่ชอบแต่มิได้อ้างเหตุมาให้เห็นเป็นการชัดเจนว่าไม่ชอบอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225 ประกอบด้วย มาตรา 195 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ยื่นคำร้องเกินกำหนด 15 วัน นับแต่วันศาลยกฟ้องจึงให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาวินิจฉัยคงมีตามฎีกาของโจทก์ว่า คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ของโจทก์นั้นได้ยื่นตามกำหนดเวลาในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 หรือไม่เห็นว่าบทบัญญัติในมาตรา 166 นั้นได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า โจทก์จะต้องร้องขอภายใน 15 วันนับแต่วันศาลยกฟ้องนั้น มิใช่วันที่โจทก์ทราบคำสั่งดังที่ฎีกามา ปรากฏว่าศาลยกฟ้องเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2527โจทก์มายื่นคำร้องขอเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2527 จึงเป็นการเกินกำหนดเวลา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่าการส่งหมายนัดไม่ชอบนั้น โจทก์มิได้อ้างเหตุมาให้เป็นการชัดเจนว่าไม่ชอบอย่างไรเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225ประกอบมาตรา 195 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้”
พิพากษายืน

Share