แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
จำเลยจำหน่ายเฮโรอีนให้สายลับไป3ห่อแล้วยังมีเฮโรอีนเหลืออยู่อีก1หลอดจำเลยจึงมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย3ห่อกับ1หลอดแม้เฮโรอีนที่จำเลยจำหน่ายให้กับสายลับเป็นส่วนหนึ่งของเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็น2กรรมต่างหากจากกันมิใช่กรรมเดียวเพราะการมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายเฮโรอีนเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาในการกระทำผิดแตกต่างแยกจากกันได้.(ที่มา-เนติฯ)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 มี ความผิด ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83ฐาน มี เฮโรอีน ไว้ ใน ความ ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย จำคุก คนละ 5 ปีฐาน จำหน่าย เฮโรอีน จำคุก คนละ 5 ปี รวม จำคุก คนละ 10 ปี จำเลยที่ 1 ให้การ รับสารภาพ ใน ชั้น จับกุม และ สอบสวน ลดโทษ ให้ 1 ใน 3คง จำคุก จำเลย ที่ 1 มี กำหนด 6 ปี 8 เดือน จำเลย ที่ 2 รับสารภาพตั้งแต่ ชั้น จับกุม สอบสวน และ ใน ชั้น พิจารณา ของ ศาล ลดโทษ ให้กึ่ง หนึ่ง คง จำคุก จำเลย ที่ 2 มี กำหนด 5 ปี ริบ เฮโรอีน ของกลางคืน ธนบัตร 40 บาท ที่ ใช้ ล่อ ซื้อ แก่ เจ้าของ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน จำเลย ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ว่า ‘คดี นี้ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืนตาม ศาลชั้นต้น ที่ ให้ ลงโทษ จำคุก จำเลย แต่ ละ กระทง ไม่ เกิน 5 ปีคดี จึง ต้องห้าม มิให้ ฎีกา ใน ปัญหา ข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ จำเลย ที่ 1 ฎีกา ว่าโจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน มี และ จำหน่าย เฮโรอีน จำเลยที่ 1 ให้การ ปฏิเสธ ส่วน จำเลย ที่ 2 ให้การ รับสารภาพ โดย ตลอด ว่าเฮโรอีน ของกลาง เป็น ของ ตน เมื่อ เป็น ของกลาง อัน เดียว กัน จึง เป็นเหตุ ใน ลักษณะ คดี ที่ ไม่ สมควร จะ ลงโทษ จำเลย ที่ 1 และ ฎีกา จำเลยอีก ข้อ หนึ่ง ว่า พยาน หลักฐาน โจทก์ ไม่ มี น้ำหนัก ที่ จะ ลงโทษจำเลย ที่ 1 ได้ ศาลฎีกา เห็น ว่า ล้วน แต่ เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ทั้งสิ้น ศาลฎีกา ไม่ อาจ รับ วินิจฉัย ให้ ได้ คดี คงมี ปัญหา ข้อกฎหมาย ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ว่า การ กระทำ ของ จำเลย ที่1 เป็น ความผิด กรรม เดียว หรือ หลาย กรรม ต่าง กัน พิเคราะห์ แล้วเห็น ว่า หลังจาก ที่ จำเลย จำหน่าย เฮโรอีน ให้ แก่ สายลับ ไป 3ห่อ แล้ว เจ้าหน้าที่ ยัง ค้น ได้ เฮโรอีน อยู่ ที่ กางเกงใน จำเลยที่ 1 อีก 1 หลอด พลาสติก แสดง ให้ เห็น ว่า จำเลย ที่ 1 จำหน่ายเฮโรอีน ให้ สายลับ ไป 3 ห่อ แล้ว จำเลย ที่ 1 ยัง มี เฮโรอีน เหลืออยู่ ใน ครอบครอง อีก 1 หลอด จำเลย ที่ 1 จึง มี เฮโรอีน ไว้ ในครอบครอง เพื่อ จำหน่าย 3 ห่อ กับ 1 หลอด แม้ เฮโรอีน 3 ห่อ ที่ จำเลยที่ 1 จำหน่าย ให้ สายลับ เป็น เฮโรอีน ส่วนหนึ่ง ของ เฮโรอีน ที่ จำเลยมี ไว้ ใน ครอบครอง เพื่อ จำหน่าย การ กระทำ ของ จำเลย ที่ 1 ก็ แยก ได้เป็น สอง กรรม ต่างหาก จาก กัน เพราะ การ มี เฮโรอีน ไว้ ใน ครอบครองเพื่อ จำหน่าย และ การ จำหน่าย เฮโรอีน เป็น ความผิด ซึ่ง อาศัย เจตนาใน การ กระทำ ผิด แตกต่าง แยก จาก กัน ได้ การ กระทำ ของ จำเลย จึงเป็น ความผิด สอง กรรม หา ใช่ ความผิด กรรม เดียว ดัง จำเลย ที่ 1 ฎีกาไม่ ศาลล่าง ทั้ง สอง พิพากษา ชอบ แล้ว ฎีกา จำเลย ที่ 1 ฟัง ไม่ ขึ้น’
พิพากษายืน