คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6661-6664/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำการสืบพยาน แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี เนื่องจากศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งแสดงว่า จำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาให้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวนั้น กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 2 ที่ไม่ได้ขาดนัดพิจารณาและทำไว้ก่อนศาลฎีกาพิพากษาให้ย้อนสำนวนเป็นไปโดยชอบ ต้องสืบพยานใหม่เฉพาะระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น ศาลชั้นต้นหยิบยกคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสี่ดังกล่าวมาวินิจฉัย จึงไม่เป็นการผิดระเบียบ

ย่อยาว

คดีทั้งสี่สำนวน ศาลชั้นต้นรวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกโจทก์สำนวนแรกว่าโจทก์ที่ 1 โจทก์สำนวนที่สองว่าโจทก์ที่ 2 โจทก์สำนวนที่สามว่าโจทก์ที่ 3 โจทก์สำนวนที่สี่ว่าโจทก์ที่ 4 เรียกจำเลยที่ 1 และที่ 2 ทั้งสี่สำนวนว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2
โจทก์ทั้งสี่สำนวนฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองเพิกถอนการโอนเฉพาะส่วนของโจทก์ทั้งสี่
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การทั้งสี่สำนวน
จำเลยที่ 2 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทตามสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยทั้งสอง เฉพาะส่วนของโจทก์ทั้งสี่ ตามแผนผังสังเขปการแบ่งที่ดิน และให้จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสี่สำนวน โดยกำหนดค่าทนายความให้สำนวนละ 2,000 บาท
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ทั้งสี่สำนวน โดยกำหนดค่าทนายความสำนวนละ 1,500 บาท
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำการสืบพยาน แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่
จำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาทั้งสี่สำนวน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทตามสัญญา (ซื้อขาย) ระหว่างจำเลยทั้งสองเฉพาะส่วนของโจทก์ทั้งสี่ตามแผนผังสังเขปแสดงแนวเขตการแบ่งที่ดิน กับให้จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสี่สำนวน โดยกำหนดค่าทนายความให้สำนวนละ 3,500 บาท
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่าเดิมศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้แล้วพิพากษาให้โจทก์ทั้งสี่เป็นฝ่ายชนะคดีโดยให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทตามสัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยทั้งสองเฉพาะส่วนของโจทก์ทั้งสี่ตามแผนผังสังเขปการแบ่งที่ดินทั้งสี่สำนวน และให้จำเลยทั้งสองทั้งสี่สำนวนใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสี่สำนวน โดยกำหนดค่าทนายความให้สำนวนละ 2,000 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ทั้งสี่สำนวน โดยกำหนดค่าทนายความสำนวนละ 1,500 บาท แต่ศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตั้งแต่วันที่เริ่มทำการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่ ต่อมาเมื่อศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่แล้วพิพากษาให้โจทก์ทั้งสี่เป็นฝ่ายชนะคดี ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่า การที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่นั้น ศาลชั้นต้นจะนำเอาคำเบิกความของนางสาวศิริวรรณและนางพิสมัยหรือพยานโจกท์และจำเลยทุกปากซึ่งสืบพยานไว้ก่อนที่ศาลฎีกาให้ย้อนสำนวนมารับฟังเป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่ เห็นว่า ในวันที่ศาลชั้นต้นเริ่มทำการสืบพยานคดีนี้ คือวันที่ 10 พฤศจิกายน 2538 จำเลยที่ 1 เท่านั้นที่ขาดนัดพิจารณา ส่วนจำเลยที่ 2 มาศาล ที่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานไปโดยมิได้มีคำสั่งแสดงว่า จำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาให้ชี้ขาดตัดสินคดีสำหรับจำเลยที่ 1 ไปฝ่ายเดียวนั้น กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 2 เป็นไปโดยชอบต้องสืบพยานใหม่เฉพาะระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น คำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสี่ที่เบิกความไว้ก่อนที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ย้อนสำนวนจึงใช้เป็นพยานหลักฐานระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 2 ได้ ไม่มีข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบในเชิงคดีระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด ที่ศาลชั้นต้นหยิบยกคำเบิกความของนางสาวศิริวรรณและนางพิสมัยมาวินิจฉัยประกอบพยานอื่น เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสี่มีน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 และพิพากษาให้โจทก์ทั้งสี่เป็นฝ่ายชนะคดี เป็นการวินิจฉัยที่ชอบแล้ว ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share