คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-775/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเสมียนตราอำเภอได้รับเงินจากคลังมารักษาไว้แล้วไม่นำลงบัญชีและไม่ผลักใช้เงินยืมซึ่งทอรองจ่ายไปหน้าที่ แม้เงินนั้นจะไม่ต้องจ่ายแก่ผู้ใดอีก ก็มีผิดฐานยักยอก, จำเลยเป็นเสมียนตราอำเภอมีหน้าที่ปกครองรักษาและรับจ่ายเงิน นายอำเภอสั่งให้จำเลยปกครองรักษาเงินซึ่งเป็นเงินของหลวงได้ ไม่เป็นการนอกหน้าที่ เมื่อจำเลยยักยอกไป ก็เป็นผิดตามมาตรา 131.

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยรับราชการมีตำแหน่งเป็นเสมียนตราอำเภอหลังสวนมีหน้าที่รับจ่ายและปกครองรักษาเงินหลวงและเงินเบ็ดเตล็ดของอำเภอ กับมีหน้าที่เขียนฎีกาเบิกเงินเสนอนายอำเภอหรือผู้แทนลงนามเป็นผู้เบิก นายอำเภอได้มอบอำนาจให้จำเลยไปรับเงินจากคลังตามฎีกาเบิกเงิน คือ เงินจำนวน ๒๑๓ บาทค่าบำรุงฐานะกำนันผู้ใหญ่บ้านฯในท้องที่อำเภอหลังสวนกับเงินจำนวน ๔๓ บาทค่าบำรุงฐานะกำนันผู้ใหญ่บ้าน ๆ ในท้องที่กึ่งอำเภอพะโต๊ะ เพื่อเอาเงินมาใช้เงินเบ็ดเตล็ดของอำเภอซึ่งโดยหน้าที่ของจำเลยได้ยืมเอาไปจ่ายทดรองเป็นเงินบำรุงฐานะกำนันผู้ใหญ่บ้าน ๆ ในท้องที่อำเภอและกิ่งอำเภอทั้งสองนี้ จึงเห็นว่าจำเลยมีหน้าที่รับจ่ายและรักษาเงินของหลวง ถึงแม้จำเลยจะไม่มีตำแหน่งในการเบิกเงิน จำเลยก็เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เทียบตามฎีกาที่ ๔๐๒/๒๔๘๔ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดที่ไม่จ่ายเงินบำรุงฐานะกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ให้นายไมผู้ใหญ่บ้าน ๒ บาท กับเงินบำรุงฐานะกำนันผู้ใหญ่บ้าน ๆ กิ่งอำเภอพะโตีะ จำเลยก็ไม่ได้เอาเงินที่เบิกจากคลังตามฎีกาจ่ายให้กิ่งอำเภอพะโต๊ะเลย จำเลยผิดฐานยักยอกตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๓๑ และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๔ ปีกับให้ใช้เงิน ๔๕ บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ศาลชั้นต้นโดยให้จำเลยใช้เงินรวมสองสำนวน ๒๕๖ บาทให้แก่อำเภอหลังสวน นอกจากนี้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยว่า ๑. เงินที่โจทก์หาว่าจำเลยยักยอกเป็นเงินซึ่งจำเลยต้องมอบแก่นายอำเภอหรือผู้แทนเพื่อใช้เงินเบ็ดเตล็ด ไม่ใช่ต้องจ่ายให้แก่ผู้ใดอีก จำเลยจึงไม่มีผิดนั้น เห็นว่าจำเลยรับเงินมารักษาไว้แล้วไม่นำลงบัญชีและผลักใช้เงินเบ็ดเตล็ดตามหน้าที่ กลับยักยอกไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย จำเลยจึงไม่พ้นผิด
๒. เงินที่โจทย์ฟ้อง จำเลยไม่มีหน้าที่เบิกจ่าย การเบิกจ่ายเป็นหน้าที่นายอำเภอหรือผู้แทนนายอำเภออาจมอบให้ใครๆ รับเงินมาก็ได้ คดีนี้จำเลยก็มีหน้าที่เพียงส่งเงินรับมาแล้วต่อนายอำเภอเท่านั้น จึงไม่เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๓๑ นั้น เห็นว่าจำเลยเป็นเสมียนตราอำเภอมีหน้าที่ปกครองรักษาและรับจ่ายเงินหลวงและเงินเบ็ดเตล็ดของอำเภอ เงินที่โจทย์ฟ้องเป็นเงินหลวงซึ่งนายอำเภอสั่งให้จำเลยปกครองรักษาตามหน้าที่ หาใช่นายอำเภอมอบหมายให้ทำนอกหน้าที่ของจำเลยไม่ จำเลยจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๓๑
จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share