คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301-302/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยทำคันดินปิดคลองบางเทพ เป็นเหตุให้น้ำท่วมนาโจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความตกลงกันว่า ขอสืบพยานร่วมกัน 3 ปากว่า คันดินตามแผนที่กลางนั้น จำเลยทำขึ้นเมื่อใด ถ้าได้ความว่าทำขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2500 ่ตามฟ้องแล้ว ถือว่าจำเลยแพ้ในข้อนี้ ถ้าได้ความว่าจำเลยได้ทำมาก่อนแล้ว ถือว่าโจทก์แพ้ทั้งคดี ปรากฏว่าพยานร่วมเบิกความว่าชั้นเดิมจำเลยทำเป็นคันนาธรรมดาและไม่ติดต่อเป็นแนวเดียวกัน ถึงหน้าน้ำ ๆ ไหลผ่านพ้นไปได้ ครั้นเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยได้ทำคันดินเสริมคันนาเดิมสูงเพิ่มขึ้นเป็น 60 เซ็นติเมตร และกั้นตลอดเป็นแนวเดียวกัน น้ำไหลผ่านไม่ได้ จึงท่วมนาโจทก์ ดังนี้ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยทำคันดินในเดือนกรกฎาคม 2500 ตามที่โจทก์ฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๐๐ จำเลยได้ทำคันดินปิดคลองบางเทพ เป็นเหตุให้น้ำท่วมนาโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินที่โจทก์กล่าวในฟ้องนั้นไม่ใช่ของโจทก์ จำเลยไม่ได้ทำคันนาปิดคลอง การที่น้ำท่วมนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ โจทก์ไม่ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลย
หลังจากเจ้าพนักงานศาลทำแผนที่พิพาทแล้ว คู่ความตกลงกันว่าขออ้างพยานร่วมกัน ๓ ปาก ว่าคันดินตามเส้นแดงในแผนที่กลางนั้น จำเลยทำขึ้นเมื่อใด ถ้าได้ความจากพยานว่าจำเลยทำขึ้นในเดือนกรกฎาคม ๒๕๐๐ ตามฟ้องแล้วถือว่าจำเลยแพ้ในข้อนี้ และโจทก์จะนำสืบค่าเสียหายต่อไป ถ้าได้ความว่าจำเลยทำคันดินมาก่อนแล้วถือว่าโจทก์แพ้ทั้งคดี
ในข้อที่ท้ากันนี้ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้จำเลยแพ้โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านว่าวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าพยานร่วมเบิกความว่า ชั้นเดิมจำเลยทำเป็นคันนาธรรมดา และไม่ติดต่อเป็นแนวเดียวกัน ถึงหน้าน้ำ ๆ ไหลผ่านพ้นไปได้ ครั้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๐๐ จำเลยได้ทำคันดินเสริมคันนาสูงเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐ เซนติเมตร และกั้นตลอดเป็นแนวเดียวกัน น้ำไหลผ่านไม่ได้จึงท่วมนาโจทก์ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยทำคันดินในเดือนกรกฎาคม ๒๕๐๐ ตามที่โจทก์ฟ้อง คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว

Share