แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ฎีกา คดีมีเหตุผลเพียงพอที่จะชนะได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 111)
คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยเรียกบริษัทแซมบีโก้บ้านและที่ดิน จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัดแซมบีโก้คอมเมอร์เชียล เป็นจำเลยที่ 2 และนางอิงครัตน์สมุทรโคจร เป็นจำเลยที่ 3
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ ทนายโจทก์ และทนายจำเลยทั้งสามตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยทั้งสามยอมชำระเงินให้โจทก์ จำนวน 270,000 บาท ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2529โดยจำเลยจะนำเงินสดไปชำระให้โจทก์ ณ ที่ทำการของโจทก์ หากผิดนัดยอมให้บังคับคดีได้ทันที และยอมเสียเบี้ยปรับฐานผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ของเงินจำนวน 270,000 บาท นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ เมื่อจำเลยทั้งสามชำระเงินดังกล่าวให้โจทก์แล้ว โจทก์จะถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้องคดีอาญาที่ฟ้องไว้เกี่ยวกับเช็คทั้งหลายในคดีทั้งสามสำนวนนี้ และจะไม่ดำเนินคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คเหล่านี้กับจำเลยอีกต่อไป โจทก์กับจำเลยยอมตามเงื่อนไขดังกล่าวและไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดอีก ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าวและขอให้เรียกโจทก์จำเลยมาทำความตกลงกันใหม่ โดยจำเลยจะมาตกลงด้วยตนเอง
ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม ในวันนัดพร้อมจำเลยแถลงไม่ขอปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่โจทก์ยืนยันจะบังคับตามคำพิพากษาตามยอม จึงตกลงกันไม่ได้
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม
จำเลยทั้งสามฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 109,108)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทั้งสามทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยที่ 3 ได้นำโฉนดที่ดินรวม 3 แปลงมาวางเป็นหลักประกัน พร้อมกับได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 80,90,93)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยทั้งสามคนใดคนหนึ่งหรือร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี มีกำหนด 3 ปีนับแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2529 มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกามิฉะนั้น ให้ยกคำร้อง