แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสามได้รับสำเนาคำร้องโดยวิธีปิดหมาย(อันดับ 215 แผ่นที่ 3)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาและพิพากษา โดยเรียกนายจิระมังคลรังษีนางนฤมลมังคลรังษีเด็กหญิงธัญญรัตน์ มังคลรังษีเด็กชายนันทิวัฒน์มังคลรังษี และเด็กหญิงศุจิมนมังคลรังษีโดยนางนฤมลมังคลรังษี ในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมว่า โจทก์ที่ 1โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3ตามลำดับ เรียกบริษัท พิพัทธ์ประกันภัยจำกัดนายสุรชัย ผลเจริญรัตน์และนายพินิจอินทร์เผือก ว่า จำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 3 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 150,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จโดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวจำนวน 100,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จให้จำเลยที่ 2และจำเลยที่ 3 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3 รวมกัน 430,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จโดยให้จำเลยที่ 1ร่วมรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวจำนวน 10,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จคดีสำนวนที่ 2 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 212,211)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 1 หาประกันสำหรับต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาคำนวณถึงวันฟังคำสั่งนี้และต่อไปอีก 2 ปี มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกาได้มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง