แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองยื่นฎีกาไว้ เนื่องจากฎีกาของจำเลยทั้งสองมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยคือเสมียนพิมพ์ได้พิมพ์ชื่อ ผู้ยื่นฎีกาผิด โดยระบุว่าโจทก์เป็นผู้ยื่นฎีกา ความจริงจำเลยทั้งสองเป็นผู้ยื่นฎีกา จำเลยทั้งสองจึงขอแก้ไขฎีกาของ จำเลยทั้งสองให้ถูกต้อง โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว หรือไม่
คดีทั้งสองสำนวนนี้โจทก์จำเลยเป็นคู่ความรายเดียวกันโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ทำนองเดียวกันขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้องคดีทั้งสองสำนวนไว้พิจารณาแล้วต่อมามีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,3 การกระทำของ จำเลยทั้งสองเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทง ความผิดไป ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 2 เดือน รวมโทษสองกระทง เป็นปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 4,000 บาท ฯลฯ จำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 4 เดือน
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2535
โจทก์ฎีกา (น่าจะเป็นจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา)(อันดับ 152)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 156)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเป็นการแก้ข้อผิดพลาดเล็กน้อยจึงอนุญาตให้แก้ไขฎีกาตามคำร้อง ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์