คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2649/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเช่าซื้อนั้นกรรมสิทธิ์จะยังไม่โอนไปจนกว่าจะได้ชำระค่าเช่าซื้อครบ และในระหว่างเช่าซื้อผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ทรัพย์สินที่เช่าซื้อฉะนั้น แม้จะเกิดเหตุผู้ให้เช่าซื้อมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุแต่ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถเพราะผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินอยู่ผู้ให้เช่าซื้อจึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าว
จำเลยที่ 2 นำรถคันเกิดเหตุมาวิ่งร่วมกับจำเลยที่ 4 หลังเกิดเหตุแล้วจำเลยที่ 4 จึงมิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถดังกล่าวในขณะเกิดเหตุ จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าวก่อนที่จะนำเข้ามาวิ่งร่วม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๒๒ โจทก์ได้โดยสารรถยนต์ของจำเลยเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ระหว่างทางคนขับรถโดยสารดังกล่าวขับรถด้วยความประมาทเล่นเล่ออย่างร้ายแรงชนกับรถคันอื่น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บ โจทก์ที่ ๑ เสียหายเป็นเงิน ๔๙๘,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ เสียหายเป็นเงิน ๑๘,๐๘๘ บาท ขอบังคับให้จำเลยชำระ
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ไม่เคยประกอบกิจการเดินรถรับส่งผู้โดยสารขณะเกิดเหตุไม่ได้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถคันเกิดเหตุเพราะให้เช่าซื้อไปแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การปฏิเสธความรับผิด
จำเลยที่ ๔ ให้การว่า ไม่ได้ให้รถคันเกิดเหตุเข้ามาวิ่งร่วม คดีโจทก์ขาดอายุความ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์บาดเจ็บไม่มาก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน ๑๔๖,๔๘๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ มิได้ทำกิจการรับขน ก่อนเกิดเหตุจำเลยที่ ๒และที่ ๓ ได้เช่าซื้อรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุไปจากจำเลยที่ ๑ แล้ว วันเกิดเหตุรถคันดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ และขณะเกิดเหตุรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุยังมิได้เข้าร่วมรับขนส่งคนโดยสารกับจำเลยที่ ๔ เพิ่งนำเข้าร่วมหลังเกิดเหตุแล้ว วินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การเช่าซื้อนั้น กรรมสิทธิ์จะยังไม่โอนไปจนกว่าจะได้ชำระค่าเช่าซื้อครบและในระหว่างเช่าซื้อผู้เช่าซื้อเป็นผู้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ฉะนั้นแม้ในขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ยังมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุแต่ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถคันดังกล่าว จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าว และเมื่อขณะเกิดเหตุจำเลยที่ ๔ มิได้เป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๔ จึงไม่ต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถคันดังกล่าวเช่นเดียวกับจำเลยที่ ๑
พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะคดีที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ และที่ ๔

Share