คำสั่งคำร้องที่ 1302-1303/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์จำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์
จำเลยเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังเป็นที่ยุติ หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลย ไว้พิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 68)
คดีทั้งสองสำนวนศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณา พิพากษาเข้าด้วยกัน โดยเรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่าโจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2
ศาลแรงงานกลางพิพากษา ให้จำเลยจ่ายค่าจ้างแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 1,900 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 4,500 บาท ให้จ่ายค่าชดเชย แก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 11,400 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 27,000 บาท เช่นนั้นจะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเลิกจ้างโจทก์ทั้งสอง และให้จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 2,533 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 6,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ดังกล่าว (อันดับ 62)
ทนายจำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 65)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่ฟังว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งสองเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2534 เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ที่ศาลแรงงานสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share