คำสั่งคำร้องที่ 479-485/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยทั้งแปดฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของ จำเลยส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงไม่อาจรับได้เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลล่างให้ลงโทษจำคุกจำเลย ไม่เกิน 5 ปี ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ส่วนปัญหาข้อกฎหมาย เป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแต่ในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ประกอบมาตรา 215 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งแปด
จำเลยทั้งแปดเห็นว่า ฎีกาของจำเลยทั้งแปด เป็นข้อที่ ไม่ได้ว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้น ทั้งเป็นฎีกาในปัญหา ข้อกฎหมายดังนี้คือ โจทก์บรรยายฟ้องไม่ครบองค์ความผิดตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งแปดตามกฎหมาย ดังกล่าวไม่ได้ การที่จำเลยทั้งแปดเข้าไปยึดถือครอบครอง ที่ดินตามฟ้องโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด จึงขาดเจตนากระทำความผิด ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน ป่าสงวนแห่งชาติเขาพนมรุ้งตามกฎหมายพิเศษ กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 8 วรรคสอง (1)คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงไม่ชอบ และฟ้องของโจทก์ขาดอายุความฎีกาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายทุกประเด็น โปรดรับไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ มีผู้ลงชื่อรับสำเนาคำร้องไว้ที่ตัวคำร้อง(อันดับ 142)
คดีทั้งเจ็ดสำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยให้ เรียกจำเลยที่ 1, ที่ 2 ในสำนวนนี้และจำเลยในสำนวนถัดไป อีกหกสำนวนว่า จำเลยที่ 1, ที่ 2 ถึงที่ 8ตามลำดับ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนว่า จำเลยทั้งแปดมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 9,108 ทวิ วรรคสองประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ข้อ 11 จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนดคนละ 2 ปีให้จำเลยทั้งแปด คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทนและบริวารออกไปจาก ที่ดินที่ยึดถือครอบครอง
จำเลยทั้งแปดฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 141)
จำเลยทั้งแปดยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 142)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งแปดไม่เกินห้าปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนคดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ฎีกาของจำเลยทั้งแปดส่วนหนึ่งเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจการรับฟัง พยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงต้องห้ามฎีกา ส่วนฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมายของจำเลยทั้งแปดเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมา แต่ในศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195ประกอบมาตรา 225 ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของ จำเลยทั้งแปดชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share