แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายชิดเชิงและนายเขียนจำเลย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้จำคุกคนละ 3 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่านายชิดเชิงจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276,284,295 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 276 ซึ่งเป็นกระทงที่หนักให้จำคุก 2 ปี นายเขียนจำเลยผิดตามมาตรา 284,295 ให้ลงโทษตามมาตรา 284 ซึ่งเป็นกระทงหนัก ให้จำคุก 1 ปีเช่นนี้ จำเลยทั้งสองฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ย่อยาว
คดี 2 สำนวนนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน
สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฉุดคร่าพาหญิงไปเพื่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และทำร้ายร่างกาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 295, 83
สำนวนหลัง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฉุดคร่า ทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ข่มขืนกระทำชำเรา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 295, 340, 83
จำเลยทุกสำนวนปฏิเสธ
สำนวนหลังโจทก์ถอนฟ้องนายนูกับนายอ๋อจำเลย ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายชิดเชิงและนายเขียนจำเลย มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้จำคุกคนละ 3 เดือนแต่ต้องขังมาพอแก่โทษแล้ว ให้ปล่อยตัวไป จำเลยอื่นและข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
อัยการและนางสงัดโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า นายชิดเชิงจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 284, 295 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 276 ซึ่งเป็นกระทงที่หนัก ให้จำคุก 2 ปี นายเขียนจำเลยมีผิดตามมาตรา 284, 295 ให้ลงโทษตามมาตรา 284 ซึ่งเป็นกระทงหนัก ให้จำคุก 1 ปีนายดำ นายลืม จำเลยมีผิดตามมาตรา 295 ให้จำคุกคนละ 3 เดือน
นายชิดเชิง นายเขียน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงเชื่อว่าจำเลยทั้งสองที่ฎีกานี้ทำผิดจริงจึงพิพากษายืน