คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2376-2389/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเช่าแผงลอยและห้องเช่าจาก ช. ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์แม้การเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ขับไล่จำเลยได้ การตั้งตัวแทนไม่มีหนังสือเป็นข้อสำคัญเมื่อฟ้องให้ตัวการรับผิดตามสัญญาเช่าเท่านั้น แต่ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือตั้งตัวแทนเมื่อตัวการฟ้องขับไล่ผู้เช่า

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า นายชวลิต ทั่งสัมพันธ์ ทำสัญญาเช่าก่อสร้างตึกแถวและแผงลอยจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตามเอกสารหมาย ล.1 และ ล.2 หลังจากที่นายชวลิตก่อสร้างแผงและห้องเสร็จแล้วจำเลยทั้ง 14 สำนวนได้เช่าแผงและห้องพิพาทจากโจทก์ โดยมีนายชวลิตเป็นตัวแทนของโจทก์ ก่อนฟ้องโจทก์บอกเลิกสัญญาและบอกกล่าวให้จำเลยทั้ง 14 สำนวนออกไปจากแผงและห้องที่เช่าแล้ว แต่จำเลยทั้ง 14 สำนวนไม่ยอมออก โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือในการแต่งตั้งนายชวลิต ทั่งสัมพันธ์ เป็นตัวแทนไปทำสัญญาเช่ากับจำเลยนั้นเป็นข้อสำคัญที่จะต้องพิจารณาเมื่อมีปัญหาว่า สัญญาเช่าที่ทำขึ้นผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นตัวการผู้ให้เช่าและจำเลยผู้เช่าหรือไม่เพียงใด ซึ่งต้องเป็นกรณีที่โจทก์ฟ้องบังคับตามสัญญาเช่า คดีทั้ง 14 สำนวนนี้มิใช่เป็นการฟ้องร้องบังคับคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด แต่เป็นคดีฟ้องขับไล่ แม้การเช่าจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อได้ความว่าจำเลยได้เช่าแผงและห้องพิพาทจากโจทก์โดยมีนายชวลิตเป็นตัวแทนของโจทก์ และโจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากสถานที่เช่าได้”

พิพากษายืน

Share