คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616-2617/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 2 เพียงช่วยพันเฝือกที่ขาของจำเลยที่ 1 และเอาเฮโรอีนซุกซ่อนไว้ในเฝือก เป็นการสนับสนุนในการที่จำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้นมิใช่ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดดังกล่าว

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา และเรียกจำเลยสำนวนหลังว่าจำเลยที่ 3

โจทก์ฟ้องทั้งสองสำนวนทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งสามกับพวกร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อขาย จำหน่าย จ่ายแจก และร่วมกันนำเฮโรอีนดังกล่าวส่งออกนอกราชอาณาจักร แต่กระทำไปไม่ตลอด เพราะเจ้าพนักงานเข้าขัดขวางจับกุมจำเลยได้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในข้อหาว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองแต่ปฏิเสธในข้อหาว่ามีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายและข้อหาว่าพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักร

จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 6 ให้จำคุกคนละ 15 ปี และมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 4 ทวิ, 5ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 ให้จำคุกคนละ 10 ปี จำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 6 ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ให้จำคุก 10 ปี แต่คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ16 ปี 8 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน ของกลางริบ

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3ในข้อหาฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 5 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86, 80 มีกำหนดโทษ 6 ปี 8 เดือน ลดโทษให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 12 ปี 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา

คงมีปัญหาขึ้นสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาว่า ควรลดโทษจำเลยที่ 1 ลงอีกหรือลงโทษสถานเบาหรือไม่ จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายและเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตหรือไม่และจำเลยที่ 3 เป็นผู้สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่รับอนุญาตหรือไม่

ในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 2 เพียงช่วยพันเฝือกที่ขาของจำเลยที่ 1 และเอาเฮโรอีนของกลางซุกซ่อนไว้ในเฝือก เพื่อให้จำเลยที่ 1 นำออกนอกราชอาณาจักรนั้น เป็นการสนับสนุนในการที่จำเลยที่ 1กระทำความผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตเท่านั้น มิใช่จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานพยายามนำเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต

พิพากษายืน

Share