คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671-675/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทจำเลยและบริษัท บ. เป็นบริษัทในเครือเดียวกันและมีผู้บริหารชุดเดียวกัน แต่บริษัทดังกล่าวก็มีฐานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกันการที่จำเลยเลิกกิจการแล้วมีคำสั่งย้ายโจทก์ไปปฏิบัติงานที่บริษัท บ. โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 577โจทก์ไม่ปฏิบัติตามจึงมิใช่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลย เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทั้งห้าเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิดและไม่บอกกล่าวล่วงหน้าขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทั้งห้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2
จำเลยทั้งห้าสำนวนให้การว่าจำเลยสั่งย้ายโจทก์ทั้งห้าให้ไปช่วยงานที่ภัตตาคารบ้านคุณหลวงแต่โจทก์ทั้งห้าฝ่าฝืนคำสั่งจำเลยจึงตักเตือนด้วยลายลักษณ์อักษรและประกาศให้โจทก์ไปรายงานตัวและปฏิบัติหน้าที่ณภัตตาคารบ้านคุณหลวงภายในวันเวลาที่กำหนดแต่โจทก์ทั้งห้ามิได้ปฏิบัติตามเป็นครั้งที่สองจำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินตามฟ้องให้โจทก์ทั้งห้า
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทั้งห้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2
จำเลยทั้งห้าสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่าบริษัทจำเลยและบริษัทบ้านคุณหลวง จำกัดแม้จะเป็นบริษัทในเครือเดียวกันและมีผู้บริหารชุดเดียวกันดังอุทธรณ์ของจำเลยก็ตามแต่บริษัทดังกล่าวต่างก็จดทะเบียนเป็นบริษัท จำกัดซึ่งตามกฎหมายย่อมมีฐานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน บริษัทบ้านคุณหลวง จำกัดมิได้เป็นสาขาของบริษัทจำเลยแต่อย่างใดฉะนั้นการที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทั้งห้าไปปฏิบัติงานที่บริษัทบ้านคุณหลวง จำกัดโดยโจทก์ทั้งห้าไม่ยินยอมพร้อมใจด้วยจึงเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 577 การที่โจทก์ทั้งห้าไม่ปฏิบัติตามจึงมิใช่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share