คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8133-8135/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยได้ร่วมกันอ้างคำเบิกความของพยานโจทก์และพยานจำเลยเอกสารและม้วนวีดีโอเทปของสำนวนคดีหมายเลขแดงที่1248-1256/2538ของศาลแรงงานกลางเป็นพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยในคดีนี้แต่คำพิพากษาของศาลแรงงานได้หยิบยกเฉพาะคำเบิกความของพยานโจทก์พยานจำเลยและเอกสารในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่1248-1256/2538ขึ้นวินิจฉัยแล้วฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งสามไม่ได้กระทำผิดดังที่จำเลยกล่าวอ้างโดยมิได้หยิบยกม้วนวีดีโอนเทปซึ่งเป็นวัตถุพยานในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่1248-1256/2538ที่โจทก์ทั้งสามและจำเลยอ้างเป็นพยานขึ้นมาวินิจฉัยด้วยทั้งไม่ปรากฏว่าม้วนวีดีโอเทปที่โจทก์ทั้งสามและจำเลยได้อ้างเป็นพยานดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานที่ต้องห้ามหรือรับฟังไม่ได้โดยประการอื่นหรือว่าพยานหลักฐานเท่าที่ศาลแรงงานวินิจฉัยมาแล้วนั้นเป็นการเพียงพอให้ฟังเป็นยุติแล้วแต่อย่างใดคำวินิจฉัยของศาลแรงงานจึงเป็นการไม่ชอบด้วยการพิจารณาว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐานชอบที่จะต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานฟังข้อเท็จจริงใหม่โดยรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยอ้างให้ครบถ้วนแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่าโจทก์ที่ 1ถึงโจทก์ที่ 3
โจทก์ทั้งสามสำนวนฟ้องว่า โจทก์ทั้งสามเป็นลูกจ้างจำเลยมีอายุการทำงานและอัตราค่าจ้างปรากฏอยู่ตามคำฟ้องแต่ละสำนวนเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2537 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ทั้งสามไม่มีความผิดและเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหาย พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสาม
จำเลยทั้งสามสำนวนให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยาน โจทก์ทั้งสามแถลงรับว่าโจทก์ทั้งสามได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นัดหยุดงานแล้วโจทก์ทั้งสามและจำเลยขออ้างคำเบิกความของพยานโจทก์พยานจำเลยรวมทั้งเอกสารและม้วนวีดีโอเทปในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 1248-1256/2538 ของศาลแรงงานกลางเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ และแถลงไม่สืบพยาน
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 33,000 บาท ค่าเสียหายจำนวน 44,000 บาทค่าชดเชยให้โจทก์ที่ 2 จำนวน 28,800 บาท ค่าเสียหายจำนวน28,800 บาท ค่าชดเชยให้โจทก์ที่ 3 จำนวน 4,350 บาท กับดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าวนับจากวันเลิกจ้าง(วันที่ 28 ตุลาคม 2537) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้นเฉพาะค่าเสียหายเท่านั้นให้คิดดอกเบี้ยนับจากวันฟ้อง (วันที่27 เมษายน 2538)
จำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งสามและจำเลยได้ร่วมกันอ้างคำเบิกความของพยานโจทก์และพยานจำเลยเอกสารและม้วนวีดีโอเทปของสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 1248-1256/2538 ของศาลแรงงานกลางเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสามและจำเลยในคดีนี้แต่คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางได้หยิบยกเฉพาะคำเบิกความของพยานโจทก์พยานจำเลยและเอกสารในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่1248-1256/2538 ขึ้นวินิจฉัยแล้วฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งสามไม่ได้กระทำผิดดังที่จำเลยกล่าวอ้าง โดยมิได้หยิบยกม้วนวีดีโอเทปซึ่งเป็นวัตถุพยานในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 1248-1256/2538ที่โจทก์ทั้งสามและจำเลยอ้างเป็นพยานขึ้นมาวินิจฉัยด้วย ทั้งไม่ปรากฏว่าม้วนวีดีโอเทปที่โจทก์ทั้งสามและจำเลยได้อ้างเป็นพยานดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานที่ต้องห้าม หรือรับฟังไม่ได้โดยประการอื่นหรือว่าพยานหลักฐานเท่าที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยมาแล้วนั้นเป็นการเพียงพอให้ฟังเป็นยุติแล้วแต่อย่างใด เช่นนี้คำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางจึงเป็นการไม่ชอบด้วยการพิจารณาว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐาน ชอบที่ศาลฎีกาจะต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงใหม่ โดยรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์ทั้งสามและจำเลยอ้างให้ครบถ้วน แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางรับฟังพยานหลักฐานให้ถูกต้อง แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share