คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6418/2561

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บรรดาทรัพย์สินซึ่งพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรา 27 วรรคหนึ่งนั้น ให้ศาลไต่สวน หากคดีมีมูลว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินนั้น เว้นแต่บุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ยื่นคำร้องขอคืนก่อนคดีถึงที่สุดและแสดงให้ศาลเห็นว่า (1) ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริง และทรัพย์สินนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด…” ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะยื่นคำคัดค้านผู้คัดค้านที่ 3 เป็นเพียงผู้เช่าซื้อโดยยังผ่อนชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบถ้วน กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ ผู้คัดค้านที่ 3 จึงมิใช่เป็นเจ้าของรถยนต์ดังกล่าวในอันที่จะใช้สิทธิร้องขอคืนได้ แม้ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ผู้คัดค้านที่ 3 ได้ชำระค่าเช่าซื้อจนครบถ้วนและรับโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ดังกล่าวมา ก็ไม่ทำให้ผู้คัดค้านที่ 3 กลับเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำคัดค้านขึ้นมาได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนรถยนต์ดังกล่าวแก่ผู้คัดค้านที่ 3 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องฟ้องขอให้ลงโทษผู้คัดค้านที่ 1 ในข้อหามีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3870/2557 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 626/2558 ของศาลชั้นต้น หลังจากยื่นฟ้องคดีดังกล่าวแล้วคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวินิจฉัยว่าทรัพย์สินของผู้คัดค้านทั้งสามเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบเงินสดจำนวน 13,700 บาท ธนบัตรมาเลเซีย จำนวน 520 ริงกิต รถยนต์ยี่ห้อ PERODUA หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 หมายเลขเครื่องยนต์ J10A68C รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ขทฉ นราธิวาส 823 ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นางสาวปราณี ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 27, 29, 31
ศาลชั้นต้นได้สั่งให้ประกาศในหนังสือพิมพ์ตามกฎหมายแล้ว
ผู้คัดค้านทั้งสามยื่นคำคัดค้านขอให้คืนทรัพย์สินทั้งสามรายการแก่ผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ริบเงินสดจำนวน 13,700 บาท ธนบัตรมาเลเซียจำนวน 520 ริงกิต รถยนต์ยี่ห้อ PERODUA หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 หมายเลขตัวถัง PM2L250S002020968 หมายเลขเครื่องยนต์ J10A68C ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 29, 31 และให้คืนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ขทฉ นราธิวาส 823 ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์นางสาวปราณี แก่เจ้าของ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้ริบทรัพย์รถยนต์หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 ของผู้คัดค้านที่ 3 และให้คืนทรัพย์รายการนี้แก่ผู้คัดค้านที่ 3 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ผู้คัดค้านที่ 3 ยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลมีคำสั่งคืนรถยนต์ยี่ห้อ PERODUA หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 แก่ผู้คัดค้านที่ 3 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ซึ่งขณะนั้นผู้คัดค้านที่ 3 เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์ดังกล่าวมาจากธนาคารเอ.เอ็ม.อิสลามิค แบงค์ จำกัด ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า ผู้คัดค้านที่ 3 มีสิทธิขอคืนรถยนต์คันดังกล่าวหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 29 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “บรรดาทรัพย์สินซึ่งพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรา 27 วรรคหนึ่งนั้น ให้ศาลไต่สวน หากคดีมีมูลว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินนั้น เว้นแต่บุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ยื่นคำร้องขอคืนก่อนคดีถึงที่สุดและแสดงให้ศาลเห็นว่า (1) ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริง และทรัพย์สินนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด…” ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะยื่นคำคัดค้านผู้คัดค้านที่ 3 เป็นเพียงผู้เช่าซื้อโดยยังผ่อนชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบถ้วน กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้อ ผู้คัดค้านที่ 3 จึงมิใช่เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 ดังกล่าว ในอันที่จะใช้สิทธิร้องขอคืนได้ แม้ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ผู้คัดค้านที่ 3 ได้ชำระค่าเช่าซื้อจนครบถ้วนและรับโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ดังกล่าวมาตามหนังสือรับรองการชำระเงินพร้อมคำแปลแนบท้ายคำขอส่งเอกสารต่อศาล ฉบับลงวันที่ 22 มกราคม 2559 ก็ไม่ทำให้ผู้คัดค้านที่ 3 กลับเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำคัดค้านขึ้นมาได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนรถยนต์ดังกล่าวแก่ผู้คัดค้านที่ 3 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบรถยนต์ยี่ห้อ PERODUA หมายเลขทะเบียนประเทศมาเลเซีย DER – 7794 ให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 29, 31 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share