คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2143/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษเหนือที่ดินพิพาทว่าตนไม่ใช่บริวารศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับคำร้องและนัดไต่สวนและเจ้าหน้าที่ศาลได้นัดไต่สวน โดยผู้ร้องทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเลื่อนวันนัดไต่สวนคำร้องเสียใหม่จากเดิมที่นัดไว้ และผู้ร้องไม่ได้อยู่ในศาลในเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งและได้ลงลายมือชื่อรับรู้ไว้ก็ต้องหมายแจ้งคำสั่งผู้ร้องทราบใหม่อีกครั้ง และการแจ้งคำสั่งของศาลให้ผู้ร้องทราบนั้นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่บัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการยื่นและการส่งคำคู่ความและเอกสาร ที่เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งวันนัดไต่สวนคำร้องให้แก่ผู้ร้องทราบทางโทรศัพท์นั้น หาใช่เป็นวิธีการส่งคำคู่ความและเอกสารให้แก่คู่ความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองกับจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมว่า จำเลยยอมรับว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสอง โดยโจทก์ทั้งสองตกลงให้จำเลยเช่าที่ดินพิพาทเพื่อเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังได้มีกำหนด 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2555 จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2556 และชำระค่าเช่าเป็นเงิน 12,000 บาท เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า จำเลยยินยอมออกจากที่ดินพิพาท ส่วนรั้วและสิ่งปลูกสร้างให้คงไว้ตามเดิม ต่อมาจำเลยผิดนัด โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอออกหมายบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีปิดประกาศแจ้งให้จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินพิพาท ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษเหนือที่ดินพิพาทว่า ตนไม่ใช่บริวารจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้องและนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.30 นาฬิกา ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลทำรายงานเสนอว่า ได้โทรศัพท์แจ้งกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องเป็นวันที่ 17 มีนาคม 2557 ผู้ร้องขอนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตและให้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 10 นาฬิกา ให้เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบทางโทรศัพท์ เมื่อถึงวันนัดในวันที่ 17 มีนาคม 2557 ผู้ร้องไม่มาศาล ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ศาลโทรศัพท์แจ้งวันนัดไต่สวนให้ผู้ร้องทราบแล้ว ไม่มาศาล ถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบ จึงมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอม จำเลยผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือถึงศาลชั้นต้นให้จับกุมและกักขังจำเลยและผู้ร้องบริวารจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 จัตวา (1) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 10 นาฬิกา หมายแจ้งวันนัดให้เจ้าพนักงานบังคับคดี จำเลย และผู้ร้องบริวารจำเลยทราบ ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษเหนือที่ดินพิพาทว่า ตนไม่ใช่บริวารจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้องและนัดไต่สวน เจ้าหน้าที่ศาลลงนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.30 นาฬิกา ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลทำรายงานเสนอว่า ได้โทรศัพท์แจ้งกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องเป็นวันที่ 17 มีนาคม 2557 ผู้ร้องขอนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ตามรายงานเจ้าหน้าที่ฉบับลงวันที่ 3 มีนาคม 2557 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตและให้นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 10 นาฬิกา และให้เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบทางโทรศัพท์ เมื่อถึงวันนัดในวันที่ 17 มีนาคม 2557 ผู้ร้องไม่มาศาล
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 10 นาฬิกา แก่ผู้ร้องทราบทางโทรศัพท์ชอบหรือไม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงอำนาจพิเศษเหนือที่ดินพิพาทว่าตนไม่ใช่บริวารจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับคำร้องและนัดไต่สวน และเจ้าหน้าที่ศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ถือได้ว่าผู้ร้องทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบในวันดังกล่าวแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งเลื่อนวันนัดไต่สวนคำร้องเสียใหม่จากเดิมที่ได้นัดไว้แล้วและผู้ร้องไม่ได้อยู่ในศาลในเวลาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งและได้ลงลายมือชื่อรับรู้ไว้ก็ต้องหมายแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบใหม่อีกครั้งและการแจ้งคำสั่งของศาลให้ผู้ร้องทราบนั้น ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่ได้บัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการยื่นและการส่งคำคู่ความและเอกสาร ที่เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งวันนัดไต่สวนคำร้องให้แก่ผู้ร้องทราบทางโทรศัพท์นั้น หาใช่เป็นวิธีการส่งคำคู่ความและเอกสารให้แก่คู่ความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ ดังนั้น จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องทราบวันนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 10 นาฬิกา โดยชอบแล้ว ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เจ้าหน้าที่ศาลโทรศัพท์แจ้งวันนัดไต่สวนให้ผู้ร้องทราบแล้ว ไม่มาศาล ถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบและยกคำร้องของผู้ร้องนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นควรย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งหมายแจ้งวันนัดไต่สวนให้ผู้ร้องทราบเสียใหม่ให้ถูกต้อง ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นส่งหมายแจ้งวันนัดไต่สวนคำร้องให้แก่ผู้ร้องใหม่ให้ถูกต้อง แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปและมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ

Share