แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายมีอาชีพทำฟาร์มโค ฟางอัดแท่งที่เก็บอยู่ในโรงเก็บฟาง ไม่ใช่สินค้าที่มีไว้เพื่อการค้าของผู้เสียหาย แต่น่าจะมีไว้เลี้ยงโคผู้เสียหายเองมากกว่า โรงเก็บฟางที่จำเลยวางเพลิงจึงมิใช่โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าตามความหมายของมาตรา 218 (2) แต่เป็นทรัพย์ทั่วไปของผู้อื่นตามมาตรา 217
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 218
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 (2) จำคุก 5 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยคือผู้วางเพลิงเผาโรงเก็บฟางอัดแท่งของผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่า ผู้เสียหายเบิกความยืนยันมั่นคงว่าเห็นจำเลยกระโดดลงจากโรงเก็บฟางอัดแท่งแล้วมีควันไฟและไฟไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากเห็นตอนกระโดดแล้ว ผู้เสียหายยังเห็นจำเลยวิ่งไปทางบ้านจำเลยอีก ซึ่งจากการที่จำเลยกับผู้เสียหายเป็นญาติและรู้จักกันอย่างดีนั้น เชื่อว่าผู้เสียหายจำจำเลยได้ไม่ผิด เพราะขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันและบริเวณที่เกิดเหตุเป็นฟาร์มเลี้ยงโคที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งทิศทางที่เห็นคนร้ายวิ่งไปก็ไปทางบ้านจำเลย ก่อนเกิดเหตุจำเลยก็มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายเรื่องสุนัขของผู้เสียหายไปกินไก่และไข่ไก่ของจำเลย ถึงขั้นจำเลยลักลอบเบื่อสุนัขของผู้เสียหายตายไปหนึ่งตัวซึ่งเหตุดังกล่าวมีน้ำหนักเพียงพอให้จำเลยคิดกระทำความผิดเช่นนั้นได้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายก็แจ้งแก่ผู้ใหญ่บ้านและพนักงานสอบสวนทันทีว่าจำเลยเป็นคนร้าย อันแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้เสียหายว่าได้เห็นจำเลยกระโดดลงมาจากโรงเก็บฟางอัดแท่งก่อนจะเกิดเพลิงไหม้จริง พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้ ที่จำเลยอ้างฐานที่อยู่ว่าจำเลยไปอยู่บ้านกำนันขณะไฟกำลังลุกไหม้นั้นไม่มีน้ำหนักพอที่จะหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยวางเพลิงเผาโรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าของผู้เสียหายและขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 จากทางนำสืบของโจทก์ที่ว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำฟาร์มโคนั้น ข้อเท็จจริงย่อมฟังได้ว่าฟางอัดแท่งที่เก็บอยู่ในโรงเก็บดังกล่าวไม่ใช่สินค้าที่มีไว้เพื่อการค้าของผู้เสียหาย แต่น่าจะมีไว้เลี้ยงโคผู้เสียหายเองมากกว่า โรงเก็บฟางที่จำเลยวางเพลิงจึงไม่ใช่โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าตามความหมายของมาตรา 218 (2) แต่เป็นทรัพย์ทั่วไปของผู้อื่นตามมาตรา 217 จำเลยจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 แต่มีความผิดตามมาตรา 217
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 จำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก