คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8269/2553

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกทับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์บางส่วน และเพิกถอนการโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 กับขอให้ห้ามจำเลยทั้งสองเข้าเกี่ยวข้องในที่ดิน ตามคำขอดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวกลับมาเป็นของโจทก์ คดีของโจทก์จึงเป็นการขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือเป็นคดีมีทุนทรัพย์
เมื่อที่ดินพิพาทมีราคาเพียง 9,200 บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224 และเมื่อศาลชั้นต้นกำหนดค่าทนายความให้จำเลยทั้งสองเป็นเงิน 20,000 บาท ทั้งที่มีคดีมีทุนทรัพย์เพียง 9,200 บาท จึงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) เลขที่ 509 ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อที่ 92 ตารางวา และเพิกถอนการจดทะเบียนการยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 กับห้ามจำเลยทั้งสองเข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) สารบบเลขที่ 240 ตำบลตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ของโจทก์อีกต่อไป
จำเลยทั้งสองให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 20,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์ ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากนี้ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 509 ที่ออกทับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) สารบบเลขที่ 240 ของโจทก์บางส่วนและเพิกถอนการโอนระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 กับขอให้ห้ามจำเลยทั้งสองเข้าเกี่ยวข้องในที่ดิน ตามคำขอดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 509 กลับมาเป็นของโจทก์ คดีของโจทก์จึงเป็นการขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้หรือเป็นคดีมีทุนทรัพย์ ข้ออุทธรณ์ของโจทก์ข้างต้นที่อุทธรณ์ว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 509 ออกทับที่ดินของโจทก์และโจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้นั้น จึงเป็นการขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้เช่นกัน เมื่อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 509 มีราคาเพียง 9,200 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์จึงไม่เกินห้าหมื่นบาท ย่อมต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้วินิจฉัยจึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง เมื่อทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในศาลชั้นต้นมีเพียง 9,200 บาท ที่ศาลชั้นต้นกำหนดค่าทนายความให้แก่จำเลยทั้งสองเป็นเงิน 20,000 บาท จึงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นชั้นฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
พิพากษายืน แต่ให้โจทก์ชำระค่าทนายความในศาลชั้นต้นแทนจำเลยทั้งสองเป็นเงิน 1,000 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share