แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความในสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างเจ้ามรดกกับจำเลยทั้งสองระบุว่า จำเลยทั้งสองจะผ่อนชำระค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเดือนละ 4,000 บาท กรณีที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายแต่การชำระเงินยังไม่ครบถ้วนเสร็จสิ้น เจ้ามรดกยอมตกลงว่าจำนวนเงินที่เจ้ามรดกได้รับไปแล้วไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าใดให้ถือว่าเจ้ามรดกได้รับครบถ้วนตามสัญญา ข้อความตามข้อสัญญาดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนอันจะทำให้ข้อสัญญาดังกล่าวตกเป็นโมฆะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 134116 ตำบลวังทองหลาง อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมบ้านเลขที่ 174/7 เพิกถอนสัญญาการชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับให้จำเลยทั้งสองโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวในสภาพที่เรียบร้อยดังเดิมแก่โจทก์ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครโดยให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย หากจำเลยทั้งสองไม่ไปโอนกรรมสิทธิ์ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน หากจำเลยทั้งสองไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,400,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้เพิกถอนหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินโฉนดเลขที่ 134116 เลขที่ดิน 7935 ตำบลวังทองหลาง อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 174/7 (เดิม 107/592) ซึ่งทำวันที่ 19 มิถุนายน 2543 ระหว่างนางกอบกุล กับนางสาวอัญชลี และนางสาวอัจฉรีย์ ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางกะปิ หากจำเลยทั้งสองเพิกเฉยให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาโดยให้ทรัพย์กลับคืนสู่กองมรดกที่โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางกอบกุล ผู้ตาย หากจำเลยทั้งสองไม่อาจเพิกถอนเพื่อคืนสู่กองมรดกได้ก็ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่กองมรดกเป็นเงิน 800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2544 (วันฟ้องคดี) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์ จำเลยทั้งสองในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างเจ้ามรดกกับจำเลยทั้งสองมีผลผูกพันตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า การโอนดังกล่าวเกิดจากการหลอกลวงของจำเลยทั้งสอง โจทก์จึงมีภาระในการพิสูจน์ แต่โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ การจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้กระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน โดยไม่ปรากฏว่าเจ้ามรดกบกพร่องทางจิตอันจะทำให้นิติกรรมไม่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับการทำสัญญาการชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่กระทำหลังจากจดทะเบียนโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแล้ว ทั้งข้อความในสัญญาดังกล่าวกระทำขึ้นตรงกับความเป็นจริงดังจะเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองยอมรับว่าในการทำสัญญาและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระเงินตามที่ระบุไว้ในหนังสือสัญญาขายที่ดิน แต่จำเลยทั้งสองจะผ่อนชำระให้เป็นรายเดือนเดือนละ 4,000 บาท กรณีที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตายแต่การชำระเงินยังไม่ครบถ้วนเสร็จสิ้น เจ้ามรดกยอมตกลงว่าจำนวนเงินที่เจ้ามรดกได้รับไปแล้วไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าใดให้ถือเป็นจำนวนเงินที่เจ้ามรดกได้รับไปแล้วครบถ้วนตามสัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการกระทำขึ้นตามความสมัครใจของเจ้ามรดกโดยไม่ปรากฏว่าขณะทำเจ้ามรดกมีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ เมื่อพิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของเจ้ามรดกกับครอบครัวของจำเลยทั้งสองแล้วจะเห็นได้ว่าเมื่อนายละเอียดสามีของเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย บิดามารดาของจำเลยทั้งสองก็เป็นผู้จัดหาทนายความให้ยื่นคำร้องขอให้เป็นผู้จัดการมรดก นอกจากนี้เจ้ามรดกยังมอบรูปถ่ายพร้อมทั้งมีข้อความในทำนองว่ามอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่มารดาของจำเลยทั้งสอง เมื่อเจ้ามรดกมีเจตนาที่จะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และได้กระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินโดยสมัครใจ การกระทำย่อมมีผลสมบูรณ์ เช่นเดียวกับทำสัญญาการชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็มีผลบังคับโดยสมบูรณ์เช่นกัน ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ