แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอาญาที่ศาลเพียงแต่ลงโทษปรับและจำเลยได้ชำระค่าปรับแล้วคดีถึงที่สุด ถือว่า จำเลยเป็นผู้ต้องโทษและได้พ้นโทษไปแล้ว
คดีอาญาที่ศาลลงโทษจำคุกและปรับแต่โทษจำคุกให้รอการลงอาญากับอีกคดีที่ศาลรอการกำหนดโทษ กรณีของจำเลยดังกล่าวจึงมิใช่ผู้ต้องโทษตามความหมายของมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 28, 31, 61, 70, 73, 75, 76 และสั่งให้แผ่นซีดีรอม (เอ็มพี 3) ของกลาง จำนวน 47 แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ระวางโทษจำเลยเป็นสองเท่า กำหนดโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4901/2549 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางแล้วบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.5315/2550 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และจ่ายค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์อ้างเป็นเหตุขอให้ระวางโทษในคดีนี้เป็นสองเท่าขอให้นับโทษต่อ และขอให้กำหนดโทษแล้วบวกโทษ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 (1) ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง จำเลยกระทำความผิดซ้ำเมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดห้าปี ให้ระวางโทษเป็นสองเท่าตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 73 (ที่ถูกจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 (1), 70 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 73) จำคุก 6 เดือน กำหนดโทษจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4901/2549 จำคุก 3 เดือน รวมเป็นจำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน 15 วัน จำเลยกระทำความผิดหลายครั้งไม่เข็ดหลาบ ไม่สมควรรอการลงโทษ ให้แผ่นซีดีรอม (เอ็มพี 3) ของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ตามฟ้อง จำเลย 47 แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่าจำเลยเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้หลายครั้ง โดยศาลให้โอกาสจำเลยกลับตัวแต่จำเลยไม่เข็ดหลาบ ข้ออ้างความจำเป็นเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อครอบครัวไม่เป็นเหตุอันควรที่จะรอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษและโทษจำคุกที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางลงแก่จำเลยเป็นโทษขั้นต่ำตามกฎหมายแล้ว ไม่อาจลงโทษสถานที่เบากว่านี้ได้ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้นการที่จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและปรับ แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี และการที่จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้รอการกำหนดโทษไว้ 1 ปี นั้น จำเลยยังไม่ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา กรณีของจำเลยดังกล่าวจึงไม่ใช่ผู้ต้องโทษตามความหมายของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 จำเลยย่อมไม่ได้รับประโยชน์ในการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติดังกล่าว สำหรับความผิดที่ได้กระทำไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.5557/2548 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.4901/2549 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง นอกจากนี้ เมื่อความปรากฏว่าศาลว่า จำเลยกระทำความผิดในคดีนี้ภายในระยะเวลาที่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.5557/2548 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางและในคดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศย่อมมีอำนาจนำโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ของจำเลยซึ่งรอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าวมาบวกเข้ากับเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคแรก แม้โจทก์ไม่มีคำขอให้นำโทษในคดีดังกล่าวบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ และในคดีนี้ศาลได้นำความผิดที่จำเลยกระทำไว้ในคดีดังกล่าวมาเป็นเหตุระวางโทษจำเลยเป็นสองเท่าตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ด้วยก็ตาม เพราะเป็นคนละกรณีกัน ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นำโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.5557/2548 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางบวกเข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ เป็นจำคุก 5 เดือน 30 วัน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง