แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองมีสิทธิขอให้นำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองมาชำระหนี้ตนก่อนเจ้าหนี้สามัญ แต่เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่โจทก์มีสิทธิขอให้นำไปชำระหนี้นี้หมายถึงเงินรายได้สุทธิที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขายทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว ซึ่งรวมถึงค่าภาษีที่เกิดจากการขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองตาม ป.รัษฎากรด้วย
ภาษีเงินได้ของจำเลยที่เกิดจากการขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองเป็นภาษีที่จะต้องนำส่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน มิใช่เป็นหนี้ภาษีอากรที่จำเลยค้างชำระ แม้ผู้ซื้อทรัพย์จะเป็นผู้ชำระแต่มีคำสั่งกรมบังคับคดีให้สิทธิผู้ซื้อทรัพย์นำใบเสร็จรับเงินที่มีรายการชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายมาขอคืนภาษีและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีลงรายการดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงิน ค่าภาษีเงินได้พึงประเมินของจำเลยจึงถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขายที่ดิน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินไปหักชำระภาษีดังกล่าวโดยคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งได้ชำระค่าภาษีแทนจำเลยไปแล้วนำเงินส่วนที่เหลือซึ่งเป็นรายได้สุทธิจากการขายที่ดินไปชำระหนี้จำนองแก่โจทก์จึงชอบแล้ว
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองของจำเลยออกขายทอดตลาด ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งประมูลทรัพย์ได้เป็นผู้ชำระภาษีเงินได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวแทนจำเลยซึ่งมีการหัก ณ ที่จ่ายเป็นเงิน 259,000 บาท เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินครั้งที่ 1 โดยหักเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด 259,000 บาท ให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ที่ชำระภาษีเงินได้แทนจำเลย
โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำนองมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์จำนองย่อมได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองไปหักชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของจำเลยโดยถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินทำให้โจทก์ได้รับชำระหนี้จำนองน้อยลงและไม่พอชำระหนี้ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินใหม่โดยไม่หักภาษีเงินได้ดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินครั้งที่ 1 ถูกต้องหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า โจทก์มีบุริมสิทธิพิเศษเหนือทรัพย์จำนอง เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวต้องนำมาชำระหนี้จำนองจนครบถ้วนก่อนแล้วจึงนำไปชำระภาษีเงินได้ของจำเลย เห็นว่า แม้โจทก์เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองมีสิทธิขอให้นำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองมาชำระหนี้ตนก่อนเจ้าหนี้สามัญก็ตามแต่เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่โจทก์มีสิทธิขอให้นำไปชำระหนี้นี้หมายถึงเงินรายได้สุทธิที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการขายทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว สำหรับการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยในคดีนี้นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น เช่น ค่าธรรมเนียมและค่าอากรแล้ว ยังมีค่าภาษีที่เกิดจากการขายที่ดินตามประมวลรัษฎากรอีกส่วนหนึ่งด้วย และเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยถือเป็นเงินได้พึงประเมินของจำเลยซึ่งจำเลยมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ (ผู้ซื้อทรัพย์) จากการขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพย์มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายนำส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน กรมบังคับคดีจึงออกคำสั่งกรมบังคับคดีที่ 169/2546 เรื่องการหักภาษีเงินได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ให้สิทธิผู้ซื้อทรัพย์นำใบเสร็จรับเงินที่มีรายการชำระหนี้ค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายมาขอคืนภาษีได้ และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีลงรายการ คืนเงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ในบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินด้วย กรณีจึงเห็นได้ว่าภาษีเงินได้ของจำเลยที่เกิดจากการขายที่ดินเป็นภาษีที่จะต้องนำส่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิที่ดิน มิใช่เป็นหนี้ภาษีอากรที่จำเลยค้างชำระแต่อย่างใด แม้ผู้ซื้อทรัพย์จะเป็นผู้ชำระแต่มีคำสั่งกรมบังคับคดีให้สิทธิผู้ซื้อทรัพย์นำใบเสร็จรับเงินที่มีรายการชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายมาขอคืนภาษีและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีลงรายการดังกล่าวในบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงิน ค่าภาษีเงินได้พึงประเมินของจำเลยจึงถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขายที่ดิน การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินรายนี้ไปหักชำระภาษีดังกล่าวโดยคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งได้ชำระค่าภาษีแทนจำเลยไปแล้วนำเงินส่วนที่เหลือซึ่งเป็นรายได้สุทธิจากการขายที่ดินไปชำระหนี้จำนองแก่โจทก์จึงชอบแล้ว การทำบัญชีแสดงรายการรับ-จ่ายเงินครั้งที่ 1 ของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงถูกต้องแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ