คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางและได้เพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาเป็นคำสั่งใหม่ว่า ไม่รับฟ้องโจทก์ให้จำหน่ายคดีโจทก์จากสารบบความนั้น แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแรงงานหรือไม่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน ฯ มาตรา 9 วรรคสอง บัญญัติให้เป็นอำนาจของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางที่จะวินิจฉัยแต่เพียงผู้เดียว ศาลชั้นต้นหามีอำนาจวินิจฉัยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 77,015 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2547 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับฟ้องไว้พิจารณา ต่อมาศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแรงงานกลางที่จะพิจารณาพิพากษา และเพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฟ้องไว้พิจารณา แล้วมีคำสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้องโจทก์ ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ เพื่อให้โจทก์ฟ้องยังศาลที่มีเขตอำนาจต่อไปและคืนค่าขึ้นศาลแก่โจทก์ทั้งหมด
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 9 วรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีมีปัญหาว่าคดีใดจะอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานหรือไม่ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในศาลแรงงานหรือศาลอื่น ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางเป็นผู้วินิจฉัย คำวินิจฉัยของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางให้เป็นที่สุด” การที่ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางและได้เพิกถอนคำสั่งที่ให้รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาเป็นคำสั่งใหม่ว่าไม่รับฟ้องโจทก์ให้จำหน่ายคดีโจทก์จากสารบบความนั้น แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วว่าคดีนี้จะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแรงงานหรือไม่ ซึ่งตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 9 วรรคสอง บัญญัติให้เป็นอำนาจของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางที่จะวินิจฉัยแต่เพียงผู้เดียว ศาลชั้นต้นหามีอำนาจวินิจฉัยไม่ การที่ศาลชั้นต้นเป็นผู้วินิจฉัยเสียเองว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแรงงานกลางจึงเป็นการไม่ชอบ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยเสียก่อนว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางหรือไม่แล้วให้ดำเนินการต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่

Share