แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ศาลในการลงโทษริบทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้ใช้ในการกระทำความผิด แต่ศาลจะพิพากษาหรือสั่งเองโดยโจทก์มิได้ฟ้องหรือมีคำขอมาในฟ้องหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2545 เวลากลางวัน จำเลยขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร ซึ่งมี 3 เพลา 6 ล้อ ชนิดเพลาที่ 2 และเพลาที่ 3 เป็นเพลาคู่ ใช้ยางคู่ ซึ่งผู้อำนวยการทางหลวงพิเศษ ผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน และผู้อำนวยการทางหลวงสัมปทาน ประกาศให้น้ำหนักยานพาหนะและน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดไม่เกิน 21,000 กิโลกรัม บรรทุกดินมีน้ำหนักยานพาหนะและน้ำหนักบรรทุกทั้งหมดรวม 43,300 กิโลกรัม ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดไว้ 22,000 กิโลกรัม แล่นไปตามถนนสายเพชรเกษม อันเป็นทางหลวงแผ่นดิน เป็นการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าวโดยกฎหมาย เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยได้พร้อมด้วยรถยนต์บรรทุกสิบล้อดังกล่าวซึ่งจำเลยใช้กระทำความผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 61, 73
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 61, 73 จำคุก 3 เดือน ริบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่ศาลมีคำสั่งให้ริบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง นั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ศาลในการลงโทษริบทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้หรือมีไว้ใช้ในการกระทำความผิดแต่ศาลจะพิพากษาหรือสั่งเองโดยโจทก์มิได้ฟ้องหรือมีคำขอมาในฟ้องหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง เมื่อคดีนี้โจทก์มิได้มีคำขอให้ริบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร ศาลจึงพิพากษาหรือสั่งริบรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว ที่ศาลล่างทั้งสองให้ริบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 80 – 5965 สมุทรสาคร นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7