คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2549

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า การส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ไม่ชอบ เนื่องจากผู้ร้องย้ายภูมิลำเนาไปก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปิดหมาย ตามแถลงของโจทก์นับว่ามีเหตุที่จะต้องทำการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่แน่ชัดเสียก่อนว่า ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ ณ บ้านที่มีการส่งหมายหรือไม่เพราะหากข้อเท็จจริงได้ความตามคำร้อง การส่งหมายก็จะไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 74 (2) ย่อมเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบและทำให้ผู้ร้องเสียหายเพราะไม่มีโอกาสได้คัดค้านคำร้อง ซึ่งศาลมีอำนาจที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนได้ตามมาตรา 27 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องโดยไม่ทำการไต่สวนจึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบ ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งดังกล่าวตามาตรา 243 (1) และมาตรา 27 ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์นำพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน โฉนดเลขที่ 23680 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยและขายทอดตลาดไปโดยนางสาววิไล พานิชการ ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลได้ โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ไม่ทราบวันนัดขายทอดตลาดราคาที่ขายทอดตลาดได้เป็นราคาที่ต่ำเกินสมควรและการขายได้ราคาต่ำเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า นัดไต่สวน สำเนาคำร้องให้เจ้าพนักงานบังคับคดี จำเลยและผู้ซื้อทรัพย์ จะคัดค้านประการใดให้ยื่นก่อนหรือภายในวันนัด ให้โจทก์นำส่งหมายและสำเนาภายใน 7 วัน ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อโดยวิธีปิดหมายและสำเนาคำร้องไว้ที่บ้านเลขที่ 17/115 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ให้แก่ผู้ร้องโดยวิธีปิดหมายที่บ้านเลขที่ 17/115 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เป็นการไม่ชอบ เพราะผู้ร้องได้ย้ายภูมิลำเนาจากบ้านเลขที่ดังกล่าวไปยังบ้านเลขที่ 30/5 หมู่ที่ 3 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี แล้วก่อนวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องของโจทก์ใหแก่ผู้ร้องโดยวิธีปิดหมาย ผู้ร้องจึงไม่ได้รับหมายนัดและสะเนาคำร้องของโจทก์ และไม่มีโอกาสได้คัดค้าน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์ไปโดยผู้ร้องไมีโอกาสได้คัดค้านจึงเป็นการไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนการไต่สวนและดำเนินการไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ใหม่โดยให้ผู้ร้องได้มีโอกาสคัดค้านด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า การส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ไม่ชอบเนื่องจากผู้ร้องมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 17/115 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เป็นกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่ง โดยมีหลักฐานแนบมาท้ายคำร้องคือสำเนาทะเบียนบ้านเลขที่ 17/115 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี และสำเนาทะเบียบบ้านเลขเลขที่ 30/5 หมู่ที่ 3 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีข้อความระบุว่าผู้ร้องย้ายภูมิลำเนาจากบ้านเลขที่ 17/115 หมู่ที่ 6 ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ไปที่บ้านเลขที่ 30/5 หมู่ที่ 3 ตำบลบางกะจะ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2547 ก่อนวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ปิดหมายตามคำแถลงของโจทก์ นอกจากนี้ตามบันทึกการปิดหมายของเจ้าหน้าที่ศาลที่นำหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องไปส่งให้แก่ผู้ร้องก็ระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่ศาลได้รับแจ้งจากบุคคลใกล้เคียงว่า ผู้ร้องได้ย้ายบ้านใหม่แล้ว กรณีเช่นว่านี้นับว่ามีเหตุตามสมควรที่ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่แน่ชัดเสียก่อนว่า ในขณะที่มีการส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้แก่ผู้ร้องนั้น ผู้ร้องมีภูมิลำเนาอยู่ ณ บ้านที่มีกี่ส่งหมายนัดคำร้องให้แก่ผู้ร้องหรือไม่ เพราะหากข้อเท็จจริงทางการไต่สวนได้ความตามคำร้องของผู้ร้อง การส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้แก่ผู้ร้องดังกล่าวไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74 (2) ย่อมเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบและทำให้ผู้ร้องเสียหายเพราะไม่มีโอกาสได้คัดค้านคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ ซึ่งศาลมีอำนาจที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมดหรือบางส่วนหรือสั่งแก้ไขหรือมีคำสั่งในเรื่องนั้นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่เห็นสมควรได้ ตามมาตรา 27 การที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องโดยไม่ทำการไต่สวนคำร้องให้ทราบข้อเท็จจริงแน่ชัดเสียก่อนเช่นนี้เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบ ศาลฎีกาชอบที่จะยกคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นเสียได้ตามมาตรา 243 (1) และมาตรา 27 ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247 แล้ว ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี”
พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องฉบับลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 ของผู้ร้อง ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องฉบับดังกล่าวของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share