แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
วันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเฝ้าดักจับจำเลยทั้งสองได้ขณะที่จำเลยทั้งสองขับรถถึงด่านเก็บเงินอินทร์บุรี และนำไปตรวจค้นพบเฮโรอีน 14 ถุง ต่อมาได้นำจำเลยที่ 1 ไปตรวจค้นที่บ้านพักและพบเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง แต่มีการสอบสวนโดยแยกสำนวนจากกันเนื่องจากเป็นความผิดคนละกรรมและที่เกิดเหตุอยู่คนละท้องที่ กรณีความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองสำนวนจึงเกี่ยวพันที่อาจถูกฟ้องคดีเดียวกันและอาจพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ เมื่อคดีหนึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลพิพากษาให้นับโทษจำคุก 25 ปี ในคดีนี้ต่อจากศาลดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8,15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบเฮโรอีนและถุงผ้าของกลาง ให้นับโทษของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่อจากโจทก์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ ในคดีหมายเลขแดงที่ 4430/2530 ของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นกับกุมคำรับเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ เห็นสมควรลดโทษให้จำเลยที่ 1 กึ่งหนึ่งและลดโทษให้จำเลยที่ 2 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 25 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษของจำเลยทั้งสองในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4430/2530 ของศาลชั้นต้น ริบเฮโรอีนและถุงผ้าของกลาง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้นับโทษจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4430/2530 ของศาลชั้นต้น แต่ให้รวมโทษจำคุก 50 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุดแล้ว
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า คดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4430/2530 ของศาลชั้นต้น ศาลพิพากษาลงโทษจำเลขที่ 1 ให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีให้นับโทษจำคุกมีกำหนด 25 ปี ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4430/2530 และศาลอุทธรณ์ไม่ได้พิพากษาแก้นั้น เป็นการไม่ชอบขัดต่อบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3) ขอให้ศาลชั้นต้นพิพากษาแก้ไขให้เป็นไปตามหลักกฎหมายดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ตามทางนำสืบของโจทก์ว่า ในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจเฝ้าดักจับจำเลยทั้งสองได้ขณะจำเลยทั้งสองขับรถถึงด่านเก็นเงินอินทร์บุรี และนำไปตรวจค้นพบเฮโรอีน 14 ถุง ต่อมาจึงได้นำจำเลยที่ 1 ไปตรวจค้นที่บ้านพักและพบเฮโรอีนอีกส่วนหนึ่ง แต่มีการสอบสวนโดยแยกสำนวนจากกัน เนื่องจากเป็นความผิดคนละกรรมและที่เกิดเหตุอยู่คนละท้องที่ กรณีความผิดของจำเลยที่ 1 ทั้งสองสำนวนจึงเกี่ยวพันที่อาจถูกฟ้องคดีเดียวกันและอาจพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้เมื่อคดีหนึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้นับโทษจำคุกคดีนี้ต่อจากคดีดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่นับโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ในคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกตลอดชีวิตคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4430/2530 ของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์