คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7583/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายโจทก์ให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์นำคำร้องของทนายโจทก์มายื่นต่อศาลเพื่อขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่ามีความจำเป็นต้องไปติดต่องานด่วนที่ศาลอื่น ไม่สามารถมาศาลได้ทันตามกำหนดนัด ซึ่งทนายจำเลยได้รับสำเนาแล้วแถลงไม่คัดค้าน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์เป็นผู้กำหนดวันนัดเองแต่กลับไม่สนใจวันนัดจึงถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานและให้งดสืบพยานโจทก์ โดยมิได้สั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ว่ามีเหตุจำเป็นอันสมควรที่จะให้เลื่อนคดีหรือไม่ หาเป็นการชอบไม่ และถือได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 40

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี หากส่งมอบคืนไม่ได้ให้ชดใช้ราคาแทนเป็นเงิน 229,848.32 บาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์จำนวน 329,000 บาท พร้อมค่าเสียหายอีกเดือนละ 7,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนโจทก์หรือชดใช้ราคาแทน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระดอกเบี้ยในต้นเงินจำนวน 558,848.32 บาท ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก ทนายโจทก์ให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์นำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลโดยอ้างว่าทนายโจทก์มีความจำเป็นต้องไปติดต่องานด่วนที่ศาลจังหวัดขอนแก่น จึงไม่สามารถมาศาลตามกำหนดนัดและขอเลื่อนคดี ทนายจำเลยที่ 1 แถลงไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์เป็นผู้กำหนดวันนัดพิจารณาคดีนี้เองแต่กลับไม่สนใจวันนัด จึงถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ให้งดสืบพยานโจทก์ และให้เลื่อนไปนัดสืบพยานจำลย โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นอ้างว่าโจทก์มิได้ละเลยที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดี อันจะถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยาน ขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ใหม่เพื่อยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่เพิกถอนคำสั่งเดิม จำเลยแถลงไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ให้เลื่อนคดีและอุทธรณ์คำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี คืนค่าขึ้นศาลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งหมดให้แก่โจทก์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากนี้ทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า การที่ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนั้นเป็นกรณีมีเหตุจำเป็นอันสมควรให้เลื่อนคดีหรือไม่ เห็นว่า ในวันนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งโจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน ทนายโจทก์ให้ผู้รับมอบอำนาจโจทก์นำคำร้องของทนายโจกท์มายื่นต่อศาลเพื่อขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่ามีความจำเป็นต้องไปติดต่องานด่วนที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ไม่สามารถมาศาลได้ทันตามกำหนดนัด ซึ่งทนายจำเลยที่ 1 ได้รับสำเนาคำร้องแล้วแถลงไม่คัดค้าน และเมื่อศาลได้สอบถามผู้รับมอบอำนาจโจทก์เพิ่มเติมก็ได้ความว่าทนายโจทก์ไปดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคดีที่ศาลจังหวัดขอนแก่นจริง ตามพฤติการณ์ที่ผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นผู้นำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลชี้ให้เห็นว่าฝ่ายโจทก์ยังใส่ใจในคดี ทั้งการที่ทนายจำเลยที่ 1 ไม่คัดค้านการขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ก็เท่ากับทนายจำเลยที่ 1 ยอมรับในข้อเท็จจริงที่ว่า ทนายโจทก์มีความจำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อเกี่ยวกับคดีที่ศาลจังหวัดขอนแก่นจริง นอกจากนั้นหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งว่า โจทก์ไม่สนใจวันนัดและถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานและให้งดสืบพยานโจทก์นั้น ทนายโจทก์ได้ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าว และในวันนัดสืบพยานจำเลยที่ 1 ทนายโจทก์ก็ยังแถลงเพิ่มเติมต่อศาลว่า ในวันดังกล่าวที่สำนักงานไม่มีใครเหลืออยู่เลย จึงต้องดำเนินการด้วยตนเอง หากข้ออ้างดังกล่าวเป็นความจริง ก็ถือได้ว่าเป็นกรณีมีเหตุจำเป็นและมีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นควรให้เลื่อนคดี อีกทั้งเป็นการที่ทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกและตามรูปคดีก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะทำให้เห็นว่าทนายโจทก์มีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า กรณีจึงถือได้ว่าทนายโจทก์มีเหตุอันจำเป็นตามสมควรในการที่จะขอเลื่อนคดีและศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะอนุญาตให้ทนายโจทก์เลื่อนคดีไปได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์เป็นผู้กำหนดวันนัดเองแต่กลับไม่สนใจวันนัดจึงถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานและให้งดสืบพยานโจทก์ โดยมิได้สั่งคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายโจทก์ว่ามีเหตุจำเป็นอันสมควรที่จะให้เลื่อนคดีหรือไม่ หาเป็นการชอบไม่ และถือได้ว่าศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ประกอบกับในวันดังกล่าวผู้รับมอบอำนาจโจทก์ก็มาศาล หากศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีก็ชอบที่จะสอบถามผู้รับมอบอำนาจโจทก์ว่าประสงค์จะสืบพยานหรือไม่ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการวินิจฉัยในขั้นตอนของกระบวนพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งโดยถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะสืบพยานและให้งดสืบพยานโจทก์จึงเป็นคนละกรณีกับการที่โจทก์ขอเลื่อนคดี และไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาพิจารณาว่าสมควรให้เลื่อนคดีหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ามีเหตุจำเป็นอันสมควรที่ให้โจทก์เลื่อนคดีได้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share