แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำเปรียบเทียบของศาลฎีกากินความเพียงไหน ค่าเสียหายยุติเพียงไหน
ย่อยาว
เดิมจำเลยแพ้ความโจทย์ ศาลพิพากษาให้จำเลยทำทางน้ำแลทางบกให้ดีดังเดิมแลเสียค่าเสียหายจนทำเสร็จ ครั้นจำเลยทำแล้วก็นำเงินค่าเสียหายมาวางศาล ฝ่ายโจทย์ยื่นคำร้องว่าจำเลยทำสพานไม่เรียบร้อย ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องอันนั้นแล้วเห็นว่าจำเลยทำทางดีแล้วให้ยกคำร้องของโจทย์
โจทย์ฎีกา ศาลฎีกาเปรียบเทียบ (แต่ในคำเปรียบเทียบไม่กล่าวถึงค่าเสียหาย)
บัดนี้ฝ่ายโจทย์ยื่นคำร้องขอให้จำเลย
(๑) นำเงินค่าเสียหายเดือนละ ๒๗๘ บาท ๓๖ สตางค์ คิดตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๘ จนถึงวันที่ศาลฎีกาเปรียบเทียบคือวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๙
(๒) ค่าธรรมเนียมชั้นศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์
ฎีกาตัดสินว่า ในคำร้องข้อ ๒ ของโจทย์นั้น เมื่อในคำเปรียบเทียบในชั้นศาลฎีกาไม่มีคำจำกัดไว้ว่าให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทย์เพียงชั้นฎีกาเช่นนี้ จำเลยต้องเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทย์ตลอดทุกศาล ส่วนข้อ ๑ นั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยได้ทำสพานแลคลองให้บุคคลสัญจรไปมาได้แล้ว ค่าเสียหายเดือนละ ๒๗๘ บาท เศษที่ศาลกะให้เพื่อทดแทนในการที่จำเลยปิดทางก็ต้องยุติแต่เพียงวันนั้น (คือวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๘ ) โจทย์จะมาขอค่าเสียหายอีกอย่างไรได้ ส่วนที่ว่าจำเลยทำสพานดีฤาไม่นั้นเปนคนละเรื่อง แลโจทย์ก็ยอมรับเงินไปซ่อมเอาเองแล้ว จึงให้ยกคำร้องข้อ (๑) ของโจทย์เสีย ค่าธรรมเนียมเปนภัพไป