แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลาเที่ยงคืน จำเลยกับพวกอีก ๕ คนถืออาวุธเข้าปล้นทรัพย์ที่โรงนายซุ้ย เก็บเอาทรัพยไปรวมราคา ๒๑๔ บาท แลทำร้ายนายชุ้น นายอยู่เจ้าทรัพยบาดเจ็บที่ตำบลห้วยโรง ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ ฯ
จำเลยทั้ง ๒ คนให้การปฏิเสธข้อหา แลต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลจังหวัดเพ็ชรบุรีพร้อมด้วยอธิบดีศาลมณฑลราชบุรีแลศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษาต้องกัน ฟังว่าจำเลยทั้ง ๒ กับพวกอีก ๕ คนเปนผู้ร้ายปล้นทรัพยแลทำร้ายเจ้าทรัพยบาดเจ็บไม่สาหัส จึงวางบทกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ ฐานปล้น
ทรัพยให้จำคุกจำเลยมีกำหนด คนละ ๑๒ ปี แลให้ใช้ทรัพยราคา ๒๑๔ บาทแก่เจ้าทรัพย ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณาได้ความชัดจากนายซุ้ย นางอยู่แลนางสาวยาว่า เมื่อเวลาผู้ร้ายปล้นเข้ามาในโรงพยาน มีแสงคบสว่าง จำเลย ๒ คนนี้เปนผู้เข้ามาใกล้ เอาขวานตีนายซุ้ยนางอยู่พยาน ๆ จำหน้าจำเลยได้แม่นยำเพราะเคยรู้จักมาก่อน เมื่อผู้ร้ายไปแล้วพยานก็ได้แจ้งความต่อกำนัน ๆ ไปจับตัวจำเลยทั้ง ๒ คนได้ในคืนนั้น พยานจำเลยไม่มีน้ำหนักจะหักล้างคำพยานโจทย์ ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาต้องกันมาให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์นั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของจำเลยเสีย ฯ
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓