คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๑ – ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางวัน จำเลยสมคมกันลักเล่นกำถั่วพนันเอาเงินกันที่บนเรือนนางมา โดยนางมาเปนเจ้ามือ นายบุญเปนหัวเบี้ยต่อมาวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๔๖๑ เจ้าพนักงานจับเบี้ยจั่นได้ที่บนเรือนนางมา ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอากรการพนัน ร.ศ.๑๒๐ มาตรา ๑๐-๑๑ แลขอให้จำเลยใช้เงินค่ารางวัลให้แก่ผู้นำจับอีก ๕๐๐ บาทด้วย ฯ
จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อหา ฯ
ศาลจังหวัดนครนายกพิจารณาคดีแล้ว ฟังว่านางมาจำเลยเปนเจ้ามือกำถั่ว นายบุญจำเลยสามีนางมาเปนเจ้าสำนัก แต่จำเลยนอกจากนี้ไม่ได้ความชัดเจนว่าได้กระทำผิดด้วย จึงพิพากษาว่านายบุญ นางมามีความผิดฐานลักเล่นการพนันที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอากรการพนัน ร.ศ.๑๒๐ มาตรา ๑๑ ให้จำคุกนายบุญนางมามีกำหนดคนละ ๒ เดือนให้ปรับเงินพินัยคนละ ๔๐๐ บาท ให้จำเลยทั้ง ๒ เสียเงินค่ารางวัลให้แก่ผู้นำจับคนละ ๑๐๐ บาท ฯ
โจทย์กับนาบุญ นางมาอุทธรณ ฯ
ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า คำพยานโจทย์ไม่ควรฟังว่านายบุญ นางมาได้ลักเล่นกำถั่วพนัน จึงพิพากษากลับคำพิพากษาเดิม ให้ยกฟ้องโจทย์ปล่อยจำเลยไป ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯถวายฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ทางพิจารณาได้ความว่า ก่อนเวลาเจ้าพนักงานจับตัวจำเลยกับเบี้ยจั่นของกลาง โดยเจ้าพนักงานได้ความจากนายพูน นายไล้ นายมั่ง พยานว่า เห็นจำเลยกับพวกเล่นกำถั่วพนันเมื่อวันที่ ๒๑ – ๒๒ กันยายน ต่อมาอีก ๖ วันเจ้าพนักงานได้ทราบว่าจำเลยได้เล่นกำถั่วพนันอีก เจ้าพนักงานจึงพากันไปที่บ้านนายบุญจำเลย พบนายบุญกับพวกอีก ๕ คนกำลังเล่นไพ่ เจ้าพนักงานจึงจับตัวนายบุญนางมาจำเลยกับไฟ่แลเบี้ยจั่นสำหรับลงเค้าไพ่ เจ้าพนักงานได้ฟ้องจำเลยเรื่องลักเล่นไพ่สำนวนหนึ่งแล้ว เพราะฉนั้นในฟ้องโจทย์คดีนี้ว่าจับเบี้ยจั่นของกลางได้จากจำเลยนั้น หาใช่เบี้ยเครื่องมือสำหรับกำถั่วไม่ เปนเบี้ยสำหรับลงเค้าไพ่ส่วนหนึ่ง เจ้าพนักงานหาได้จับเครื่องมือกำถั่วได้จากจำเลยไม่ คงมีแต่พยานโจทย์ คือ นายพูน นายไล้ นายมั่งว่าได้เห็นจำเลยเล่นกำถั่วพนันในวันที่ ๒๑-๒๒ กันยายนเท่านั้น แต่พยานเหล่านี้เปนผู้ที่จะได้เงินค่ารางวัล เวลาพยานเบิกความชั้นไต่สวนพยานระบุชื่อจำเลยตามที่โจทย์ฟ้องนี้ทุกคนว่าได้เปนผู้เล่นกำถั่วด้วย ครั้นมาเบิกความในศาลว่าพยานเห็นแต่นางมาเปนเจ้ามือกำถั่ว นายบุญเปนเจ้าของบ้าน พยานเห็นคนแทงอยู่ ๕-๖ คนเท่านั้นแต่จำไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าพยานเบิกความไม่แม่นยำ ทั้งจับเครื่องเล่นการพนันไม่ได้ ไม่มีเหตุผลควรฟังว่าจำเลยได้กระทำผิดดังข้อหา ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์นั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของโจทย์เสีย ฯ

Share