คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๐ เวลากลางคืน จำเลยเอาปืนลอบยิงนายจำรัสตาย ที่ตำบลโคกช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙-๒๕๐ ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดดังข้อหา แลต่อสู้ว่าในวันเกิดเหตุ เวลาพลบค่ำจำเลยลงเรือไปแห่ผ้าป่าตามลำแม่น้ำ ตำบลโคกช้าง จำเลยได้ร้องเพลงแก้กับนายกลมอยู่จนเวลา ๑๐ นาฬิกาหลังเที่ยง ได้ยินเสียงปืนดัง ๒ นัดทางทิศใต้ แต่จำเลยไม่ทราบว่าใครเปนคนยิง และผู้ใดเปนผู้ถูกกระสุนปืน ฯ
ทางพิจารณาได้ความว่า ในเดือนพฤศจิกายน (ระหว่างเดือน ๑๒ ฤาเดือนอ้าย) เปนประเพณีของราษฎรในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีงานแห่ผ้าป่าเวลาพลบค่ำ แลมีชายหญิงต่างลงเรือไปในการนั้นร้องเพลงแก้กันเปนการรื่นเริง ก่องเกิดเหตุนี้ ๓ วัน มาแล้วจำเลยลงเรือไปเที่ยวแห่ผ้าป่าและได้ร้องเพลงแก้กับนางแจ๋วที่มาเรืออีกลำหนึ่ง ครั้นถึงวันเกิดเหตุเวลาพลบค่ำ นายจำรัสกับนายเจิม นายจ้อย นายชุ่ม นายซ่อน นายปลื้มลงเรือไปเที่ยวแห่ผ้าป่า แลมาร้องเพลงแก้กันกับนางแจ๋ว ต่างลอยเรือร้องเพลงล่องตามน้ำลงมาถึงตำบลโคกช้าง เวลา ๑๐ นาฬิกา หลังเที่ยงจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งมาเรือหมู เห็นนายจำรัสร้องเพลงแก้กันกับนางแจ๋ว จำเลยก็พายเรือล่องไปตามน้ำสักครู่ ๑ จำเลยพายเรือทวนน้ำแซกขึ้นมาระหว่างเรือนายจำรัสกับเรือนางแจ๋วอีก พอจำเลยพายเรือขึ้นไปพ้นท้ายเรือนายจำรัสแล้ว กลับหันหัวเรือล่องตามเรือนายจำรัสมาอีก พอมาใกล้เรือนายจำรัสสัก ๒ ศอก จำเลยก็ยกปืนโกยิงนายจำรัส ๑ นัด นายจำรัสถูกกระสุนปืนแล้ว จำเลยก็พายเรือหนีไปพ้นเรือนายจำรัสสัก ๔ วา ก็ยิงปืนขึ้นอีกนัด ๑ เพื่อจะไม่ให้ติดตามจับตัวจำเลย แล้วจำเลยก็พายเรือหนีไป นายเจิม นายจ้อย นายชุ่ม นายปลื้มพยานที่ลงเรือมาพร้อมกับนายจำรัสมาเปนพยานเบิกความว่า ได้เห็นจำเลยเปนผู้เอาปืนยิงนายจำรัสโดยชัดเจน นายจำรัสมีบาดแผลรอยถูกกระสุนปืนที่สันหลังข้างซ้าย กระดูกสันหลังแตกกระสุนปืนทลุภายใน นายจำรัสขาดใจตายด้วยพิษบาดแผลนั้น เหตุที่จำเลยกระทำร้ายนายจำรัสนั้นน่าสงสัยจะเปนด้วยความหึงหวงนางแจ๊วหญิงต้นบทร้องเพลง นอกจากนี้หาได้ความว่าจำเลยมีสาเหตุกับนายจำรัสมาแต่ก่อนไม่ ฯ
ศาลจังหวัพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยอธิบดีศาลมณฑลอยุธยาพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต ฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษายืนตามศาลเดิม ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านคำพยานโจทย์ ว่าไม่ควรฟังเปนความจริง ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับประราชทานตรวจสำนวนเรื่องนี้ตลอดแล้ว เห็นด้วยเกล้า ฯ ว่าตามคำพยานโจทย์ไม่มีเหตุเคลือบแคลงสงสัย ฟังเปนความจริงได้ว่าอ้ายเจ๊กจำเลยได้เอาปืนยิงนายจำรัสตายดังข้อหา ศาลล่างพิพากษาต้องกันมาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๙ ให้ลงพระราอาญาจำคุกอ้ายเจ๊กจำเลยตลอดชีวิตนั้น ฎีกาของอ้ายเจ๊กจำเลยไม่มีเหตุจะแก้ไขคำพิพากษาศาลล่าง ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพิพากษายืนตามศาลล่างให้ยกฎีกาของอ้ายเจ๊กจำเลยเสีย ฯ
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายสำเนาคำพิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แลศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษ กับสำเนาฎีกาจำเลย ทราบใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท ฯ
การจำควรประการใดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
วันที่ ๑๖ สิงหาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓ แจ้งความมายัง พระยากฤติกานุกรณกิจ
ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๑๗/๒๔๖๓ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ศกนี้ กราบบังคมทูลพระกรุณาเรื่องคดีอ้ายเจ๊กผู้ร้ายฆ่านายจำรัสตาย ที่ตำบลโคกช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งกรรมการศาลฎีกาพิพากษาต้องกับศาลล่างให้จำคุกอ้ายเจ๊กตลอดชีวิตนั้น อนุญาตให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษา ฯ
ขอเดชะ

Share