แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลา ๕ นาฬิกาหลังเที่ยง นางสาวแถบอายุ ๑๕ ปีกลับจากทำนาเดิรมาตามทาง จำเลยบังอาจฉุดคร่านางสาวแถบเข้าไปในป่ากอดปล้ำข่มขืนจะทำชำเรา นางสาวแถบไม่ยินยอมได้ร้องขึ้น จำเลยก็ขู่จะทำร้ายร่างกาย พอดีมีคนไปช่วยทันจำเลยจึงได้วิ่งหนีไปขอให้ลงโทษจำเลยฐานข่มขืนทำชำเราแลฐานกระทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพ กับเรียกค่าเสียหายเปนเงิน ๒๐๐ บาท ฯ
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ตามวันเวลาที่โจทย์หานั้นนางสาวแถบกับจำเลยได้เกิดทะเลาะทุ่มเถียงกันในระหว่างทางที่เดิรมามีผู้ห้ามปรามก็เลิกกันไป จำเลยหาได้กระทำแก่นางสาวแถบดังข้อหาไม่ ฯ
ศาลจังหวัดสิงห์บุรีพิจารณาฟังว่า จำเลยได้ฉุดคร่านางสาวแถบไปข่มขืนทำชำเราจริง จำเลยมีความผิด (ฐานข่มขืนทำชำเรา) ต้องด้วยกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๔๓ จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนดโทษ ๑ ปี กับให้ปรับจำเลยเปนสินไหม (ค่าเสียหาย) ให้แก่โจทย์ ๕๐ บาท แลเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทย์ ฯ
จำเลยอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่า โจทย์จำเลยต่างมีพยานมาสืบ (สมข้อหาแลข้อต่อสู้) ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ควรฟังคำพยานจำเลยหักล้างพยานโจทย์ได้ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาเดิม ให้ยกฟ้องโจทย์ปล่อยตัวจำเลย แลให้โจทย์เสียค่าธรรมเนียมแทนจำเลย ฯ
โจทย์ทูลเกล้า ฯ ถวาย คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแล้ว เห็นว่าเมื่อวันแลเวลาที่เกิดเหตุนั้น พยานจำเลยหลายปากซึ่งเปนผู้เดิรมาตามทางด้วยกัน เบิกความสมจำเลยว่านางสาวแถบกับจำเลยได้เกิดทะเลาะทุ่มเถียงกันในเรื่องที่พูดไถ่ถามกันไปมา พยานห้ามปรามจึงได้เลิกกันไป พยานสำคัญของโจทย์ก็มีคำนางสาวแถบ นายนา ๒ ปาก คำนางสาวแถบว่าจำเลยฉุดลากไปกอดปล้ำข่มขืน พอนายเติม นายนาวิ่งเข้าไปช่วยจำเลยจึงได้วิ่งหนีไป คำนายนาพยานว่าเดิรมากับนายเติมได้ยินเสียงนางสาวแถบร้องให้ช่วยอยู่ในป่า นายนาพยานกับนายเติมก็วิ่งเข้าไป เห็นจำเลยกำลังกอดปล้ำนางสาวแถบอยู่ นายนากับนายเติมก็พูดว่าจำเลย ๆ ก็ปล่อยนางสาวแถบวิ่งหนีไปดังนี้ ก็เห็นว่าคำของนางสาวแถบก็บ่งถึงนายเติมว่าได้วิ่งเข้าไปช่วยกับนายนา ส่วนคำนายนาพยานก็ว่านายเติมกับนายนาวิ่งเข้าไปได้เห็นจริงนั้น แต่โจทย์ไม่ติดใจสืบนายเติม แลนายเติมคนนี้โจทย์ก็ได้อ้างไว้ เมื่อโจทย์ไม่สามารถที่จะสืบนายเติมประกอบคำนายนาได้แล้ว คดีของโจทย์ก็มีข้อสงสัยซึ่งยังไม่ควรฟังคำนางสาวแถบกับคำนายนามาหักล้างพยานจำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษายกฟ้องโจทย์ไม่ลงโทษจำเลยนั้นชอบด้วยทางพิจารณาแล้ว ให้ยกฎีกาโจทย์เสีย ฯ