คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดมาตั้งแต่เริ่มครอบครองเป็นกรรมหนึ่ง และเมื่อพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยผิดกฎหมายก็เป็นความผิดอีกกรรมหนึ่ง จึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗ , ๘ ทวิ , ๗๒ , ๗๒ ทวิ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔ , ๖ , ๑๖ , ๑๙ , ๒๒ , ๔๗ , ๕๑ , ๕๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๘๓ , ๙๑ , ๓๗๑
จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗ , ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง , ๗๒ วรรคหนึ่ง , ๗๒ ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ เป็นความผิดหลายกรรม เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานมีอาวุธปืน จำคุก ๑ ปี ฐานพาอาวุธปืน เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษาแก้เป็นว่า…
จำเลยทั้งสี่ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมายของจำเลยที่ ๑
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยที่ ๑ ครอบครองอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในหมู่บ้านตามฟ้องเป็นหมู่บ้านเดียวกับที่จำเลยที่ ๑ มีภูมิลำเนา ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านโดยผิดกฎหมายจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทนั้น เห็นว่า การมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดตั้งแต่เริ่มครอบครองจึงเป็นความผิดกรรมหนึ่ง และเมื่อได้พาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในหมู่บ้าน แม้จะเป็นหมู่บ้านเดียวกับที่จำเลยที่ ๑ มีภูมิลำเนาก็เป็นความผิดอีกกรรมหนึ่ง จึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ ดังกล่าวเป็นความผิดสองกรรมนั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พิพากษายืน.

Share