คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม) , 66 วรรคสอง (เดิม) ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต จำเลยที่ 1 เป็นข้าราชการ ซึ่ง พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10 บัญญัติให้ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น แต่เมื่อบทบัญญัติของกฎหมายมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจวางโทษเป็นสามเท่าได้อีก ทั้งไม่อาจนำมาตรา 10 แห่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวมาปรับด้วยได้ จำเลยที่ 1 คงมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง (เดิม) , 66 วรรคสอง (เดิม) เท่านั้น คงวางโทษจำเลยที่ 1 ได้เพียงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วางโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 50 ปี และที่ศาลล่างทั้งสองวางโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ในความผิดดังกล่าวมีกำหนด 45 ปี นั้น ไม่ต้องตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง (เดิม) โดยลงโทษต่ำกว่าอัตราโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ จึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสอง ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบด้วยมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๘ , ๑๕ , ๖๖ , ๑๐๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๘๓ , ๙๑ พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๓ , ๑๐ , ๑๒ ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางและเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง , ๖๖ วรรคหนึ่ง และจำเลยที่ ๑ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๐…
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคสอง (เดิม) (ที่ถูกมาตรา ๑๕ วรรคสอง (เดิม) ด้วย)…
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยที่ ๑ ฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดโรงเรียนการบินทหารบก จังหวัดลพบุรี ร่วมกับจำเลยที่ ๒ มีเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ ๑ จำนวน ๗,๐๐๐ เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสอง (เดิม) , ๖๖ วรรคสอง (เดิม) ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต จำเลยที่ ๑ เป็นข้าราชการทหาร ซึ่งพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๐ บัญญัติให้ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น แต่เมื่อบทบัญญัติของกฎหมายมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจวางโทษเป็นสามเท่าตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติดังกล่าวได้อีก ทั้งไม่อาจนำมาตรา ๑๐ แห่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวมาปรับด้วยได้ จำเลยที่ ๑ คงมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสอง (เดิม) , ๖๖ วรรคสอง (เดิม) เท่านั้น ซึ่งคงวางโทษจำเลยที่ ๑ ได้เพียงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ วางโทษจำเลยที่ ๑ ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีกำหนด ๕๐ ปี และศาลล่างทั้งสองวางโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ ในความผิดฐานดังกล่าว มีกำหนด ๔๕ ปี นั้น ไม่ต้องตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคสอง (เดิม) โดยลงโทษต่ำกว่าอัตราโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ จึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสอง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๒ ประกอบด้วยมาตรา ๒๒๕…
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง (เดิม) วรรคสอง (เดิม) , ๖๖ วรรคหนึ่ง (ที่แก้ไขใหม่) วรรคสอง (เดิม) ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ลงโทษจำเลยที่ ๒ จำคุก ๑๕ ปี สำหรับจำเลยที่ ๑ ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๑๐ จึงวางโทษจำเลยที่ ๑ ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก ๔๕ ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ให้แก่จำเลยทั้งสองกึ่งหนึ่ง ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๒๒ ปี ๖ เดือน จำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๗ ปี ๖ เดือน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ รวมกับโทษในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้มีกำหนด ๔๗ ปี ๖ เดือน และสำหรับจำเลยที่ ๒ รวมโทษจำคุก ๒๒ ปี ๖ เดือน ในความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ ไว้มีกำหนด ๒๙ ปี ๑๒ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑.

Share