แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ส. ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับโจทก์ทั้งสอง เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในข้อหาบุกรุกที่พิพาท เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของรวมเพื่อติดตามเอาที่พิพาทคืน เมื่อศาลฟังว่า ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดโดยศาลฟังว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยแล้ว โจทก์ทั้งสองซึ่งเป๋นเจ้าของรวมจะฟ้องจำเลยทั้งสาม ขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์อีกไม่ได้ เพราะเป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นบุตรของนายสวัสดิ์ ตั้งทองทวี นายสวัสดิ์เป็นบุตรของนายเมฆกับนางขาว ตั้งทองทวี ก่อนตายนางขาวสั่งไว้แก่บุตรและบุตรสะใภ้ว่าที่ดินของนางขาวที่ยังไม่มีโฉนดยกให้แก่หลานซึ่งเป็นบุตรของนายสวัสดิ์ โจทก์ทั้งสองจึงเป็นผู้รับมรดกที่ดินไม่มีโฉนดของนางขาว ระหว่างที่โจทก์ทั้งสองเป็นผู้เยาว์ นายสวัสดิ์ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ดูแลที่ดินแทนโจทก์ทั้งสอง เมื่อประมวลกฎหมายที่ดินประกาศใช้ นายสวัสดิ์ไปแจ้งการครอบครองเป็น ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ ต่อมาโจทก์ทั้งาสองเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ปี ๒๕๑๖ โจทก์ทั้งสองกลับประเทศไทยชั่วคราว ทราบว่านายสวัสดิ์ในฐานะส่วนตัวเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามในข้อหาว่าบุกรุกที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ และจำเลยทั้งสามฟ้องนายสวัสดิ์เป็นการส่วนตัว ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชนะคดี ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๐๒/๒๕๑๘, ๓๐๓/๒๕๑๘ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในคดีดังกล่าวนายสวัสดิ์ดำเนินการในนามของตนเองและเพื่อประโยชน์ของตนเองมิได้เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของโจทก์ทั้งสอง ขณะนั้นโจทก์ทั้งสองบรรลุนิติภาวะแล้ว และมิได้รู้เห็นหรือให้ความยินยอมด้วยแต่ประการใด คำพิพากษาในคดีดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์ทั้งสองต่อมาโจทก์ค้นหีบห่อของมารดาพบเอกสารที่มาของที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ ที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๘๗๖ ของจำเลยมิได้อยู่ติดทะเลหรือแม่น้ำ แต่มีที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ คั่นอยู่ ที่ดินของจำเลยไม่มีที่งอก การออกโฉนดที่ดินของจำเลยไม่มีผู้รับรองเขตด้านติดแม่น้ำ จึงไม่สมบูรณ์ เป็นโมฆะหลังจากศาลฎีกาพิพากษาแล้ว จำเลยยื่นขอออกโฉนดที่ดินแปลง ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ โจทก์มอบอำนาจให้ผู้อื่นคัดค้าน เจ้าพนักงานที่ดินสั่งให้โจทก์ดำเนินคดีทางศาล ขอให้ศาลพิพากษาว่าโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๘๗๖ ใช้ไม่ได้ ที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ ไม่ใช่ที่งอกริมตลิ่ง ขอให้แสดงว่าที่ดิน ส.ค.๑ เลขที่ ๓๕ เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ให้เจ้าพนักงานที่ดินยกเลิกการออกโฉนด
จำเลยทั้งสามให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำและคดีขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แต่เป็นฟ้องซ้ำ และโจทก์ฟ้องคดีเกินกว่า ๑ ปี นับจากถูกแย่งการครอบครอง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายสวัสดิ์ ตั้งทองทวี เป็นเจ้าของร่วมกับโจทก์ทั้งสองในที่พิพาท ฉะนั้น การที่นายสวัสดิ์ ตั้งทองทวี เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามในข้อหาบุกรุกที่พิพาทเป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๓๐๒/๒๕๑๘, ๓๐๓/๒๕๑๘ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ จึงเป็นการใช้สิทธิของเจ้าของรวมเพื่อติดตามเอาที่พิพาทคืนเมือคดีดังกล่าวศาลฟังว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับนายสวัสดิ์ ตั้งทองทวี จะมาฟ้องจำเลยทั้งสามขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์อีกไม่ได้เพราะเป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษายืน.