คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6280/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 29 ให้อำนาจจำเลยที่ 1 เดินสายส่งไฟฟ้า ปักหรือตั้งเสาลงในหรือบนที่ดินของโจทก์ และตัดฟันต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้เมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้โจทก์ทราบ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ถือว่าที่ดินในเขตเดินสายไฟฟ้าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 36จึงไม่จำเป็นต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ มีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ว่าการ จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ เป็นพนักงานของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๓ที่ ๔ โดยคำสั่งของจำเลยที่ ๒ และในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๑ได้วางสายส่งไฟฟ้าผ่านเข้าไปในที่ดินของโจทก์ ที่ดินของโจทก์จึงตกเป็นเขตเดินสายไฟฟ้าของจำเลยที่ ๑ ทำให้โจทก์เสียหายคิดเป็นเงิน ๑๑๖,๐๐๐ บาท และจำเลยได้ตัดฟันต้นไม้ของโจทก์ในที่ดินดังกล่าวรวม ๗ ต้น คิดเป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท โดยไม่ชอบและขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๓๓ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสายไฟฟ้าออกไปจากที่ดินของโจทก์ หากไม่รื้อก็ให้ชดใช้ค่าที่ดินแก่โจทก์จำนวน ๑๑๖,๐๐๐ บาท และค่าต้นไม้จำนวน ๑,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ มาตรา ๒๙ ให้อำนาจจำเลยที่ ๑ เข้าไปปักเสาหรือทั้งเสาและเดินสายส่งไฟฟ้าในเขตที่ดินของโจทก์รวมทั้งตัดต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้ จำเลยที่ ๑ ได้แจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าแล้ว การกระทำของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ ๑ เพียงขอสิทธิในการเดินสายไฟฟ้าเหนือพื้นดินของโจทก์ ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงไม่จำต้องเวนคืนที่ดินของโจทก์และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๒๑ โจทก์เรียกค่าทดแทนสูงเกินความครอง จำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๓ และที่ ๔ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ กระทำการตามหน้าที่ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าทดแทนเป็นเงิน๑๖,๗๘๐,๓๘ บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ยกคำขออื่น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษา
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยจะต้องเวนคืนที่ดินของโจทก์ก่อนจึงสามารถเดินสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของโจทก์ได้นั้น ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ มาตรา ๒๙ ให้อำนาจจำเลยที่ ๑เดินสายส่งไฟฟ้า ปักหรือตั้งเสาลงในหรือบนที่ดินของโจทก์และตัดฟันต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้เมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้โจทก์ทราบ จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ถือว่าที่ดินในเขตเดินสายไฟฟ้าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๑ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตาม มาตรา ๓๖ จึงไม่จำต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้บังคับและไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้ววินิจฉัยว่าการกำหนดค่าทดแทนของจำเลยที่ ๑ ชอบและเป็นธรรมแก่โจทก์แล้ว
พิพากษายืน.

Share