คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6159/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีล้มละลายที่ผู้ร้องร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 วรรคสอง และวรรคสาม กำหนดให้ผู้คัดค้านดังกล่าวทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาล ซึ่งค่าธรรมเนียมในคดีล้มละลายเกี่ยวกับคำร้องนี้มิได้บัญญัติไว้ในกฎหมายล้มละลาย ผู้ร้องต้องเสียค่าคำร้อง 20 บาทตามตาราง 2(3) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประกอบด้วยมาตรา 179 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดบริษัทจำเลย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินจำนวน ๒๑๗,๓๕๖.๙๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยผู้ร้องได้ปฏิเสธหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำการสอบสวนและยืนยันหนี้จำนวนดังกล่าวผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า คำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถือเป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนหนี้ที่ปฏิเสธมาในคำร้อง จึงให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนภายในเวลา ๑๕ วัน มิฉะนั้นจะถือว่าทิ้งคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีประเด็นที่จะวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่าคำร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๑๙ วรรคสอง และวรรคสาม กำหนดให้ผู้คัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องคัดค้านต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องซึ่งค่าธรรมเนียมในคดีล้มละลายเกี่ยวกับคำร้องเช่นนี้ มิได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๗๙ แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. ๒๔๘๓ ฉะนั้นจึงต้องเสียค่าคำร้องเพียง ๒๐ บาท ตามตาราง๒ (๓) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๑๗๙ วรรคสุดท้าย ที่ศาลล่างทั้งสองให้ผู้ร้องเสียค่าธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนที่ผู้ร้องปฏิเสธหนี้มาในคำร้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป.

Share